"เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น" (SIS) จับมือ "มาร์คฟอร์จ" (Markforged) เจ้าพ่อเทคโนโลยี 3D Printing เขย่าวงการอุตสาหกรรมไทย มั่นใจการพิมพ์ 3 มิติจะเปลี่ยนแปลงการผลิตของโลกเพราะชิ้นส่วนซับซ้อนที่เคยต้องใช้เวลานานในการผลิตแต่ตอนนี้พิมพ์ได้ภายในคืนเดียว วางเป้าชิงตลาด Additive Manufacturing ในไทยที่มีมูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 13,188 ล้านบาท
นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประกาศความร่วมมือกับบริษัท มาร์คฟอร์จ ครั้งนี้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของเอสไอเอสที่ต้องการเป็นผู้บุกเบิกในการนำเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มผลผลิตให้กับองค์กรธุรกิจของประเทศไทย
“เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสำหรับอุตสาหกรรม เป็นตลาดการผลิตแบบเติมแต่ง (Additive Manufacturing)ที่คาดว่าในประเทศไทยจะมีมูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2568 และจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าภายในปี 2573 โดยผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลก เช่น โตโยต้า และบีเอ็มดับเบิลยูต่างหันมาใช้การผลิตแบบเติมแต่ง ทั้งนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย เป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลก มียอดการผลิตต่อปีมากกว่า 2 ล้านคัน”
บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นั้นเป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีชั้นนำของประเทศไทย ขณะที่บริษัท มาร์คฟอร์จ (Markforged) เป็นบริษัทระดับโลกด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสำหรับอุตสาหกรรม สำหรับการประกาศความร่วมมือด้านกลยุทธ์ครั้งนี้ ทั้งคู่มองเป็นการก้าวเข้าสู่ภาคการผลิตขั้นสูงของเอสไอเอส โดยมีเป้าหมายจำหน่ายอุปกรณ์และวัสดุการพิมพ์ 3 มิติอันล้ำสมัยของมาร์คฟอร์จทั่วประเทศไทย
สมชัย กล่าวว่าบริษัทได้สังเกตอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงด้านการพิมพ์ 3 มิติต่อการผลิตทั่วโลกและมองเห็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ผลิตของไทยที่สามารถออกแบบต้นฉบับ พิมพ์ และทดสอบต้นแบบภายในองค์กรที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์การผลิตของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเวลาและต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก
"และที่สำคัญการพิมพ์ 3 มิติช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถแก้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิตทั่วโลกในปัจจุบันได้ เพราะแม้แต่ชิ้นส่วนที่ซับซ้อนก็สามารถพิมพ์ได้ภายในคืนเดียว โดยใช้วัสดุที่เหมาะกับวัตถุประสงค์ และตรงตามความต้องการเฉพาะได้”
สิ่งที่ทำให้ Markforged พิเศษคือการไม่ได้แค่พิมพ์พลาสติกธรรมดา แต่สามารถพิมพ์ได้ด้วยวัสดุโลหะ วัสดุผสมขั้นสูง และเส้นใยคาร์บอนต่อเนื่อง โดยเครื่องที่เอสไอเอสจะนำเข้ามาขายรวมถึง FX20, FX10, X7 และ Mark Two พร้อมด้วยแพ็กเกจ Digital Forge Complete 3 ปี
นายสุรัจ เซธิ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกตอนใต้ บริษัท มาร์คฟอร์จ ผู้ที่ทำข้อตกลงกับบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้แสดงความคิดเห็นต่อความร่วมมือครั้งนี้ว่าภาคการผลิตของไทยมีความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีใหม่ การเป็นพันธมิตรกับเอสไอเอสจะช่วยให้บริษัทส่งมอบโซลูชันขั้นสูงได้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“ภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของประเทศไทยนั้น มีความพร้อมในการเติบโตและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพอย่างเต็มที่ การเป็นพันธมิตรกับบริษัทที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับอย่างบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ช่วยให้เราแนะนำโซลูชันการพิมพ์ 3 มิติขั้นสูงของเราสู่ตลาดประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่”.