เจาะลึกเทคโนโลยีอัดเสียงคุยโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ตัวเราทุกคน ไล่ตั้งแต่วิธีง่ายๆ บ้านๆ ไปจนถึงฟีเจอร์ระดับสูงที่บริษัทเทคโนโลยีกำลังพัฒนามาให้โลกใช้งาน
เทคโนโลยีอัดเสียงคุยโทรศัพท์นี้เป็นประเด็นน่าสนใจขึ้นมาทันทีหลังจากมีคลิปเสียงหลุดการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีของไทยกับสมเด็จฮุนเซนของกัมพูชา เบื้องต้น การอัดเสียงสายโทรเข้าออกบนมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) นั้นสามารถแบ่งได้กว่า 4 วิธี ขณะที่การอัดเสียงบนไอโอเอส (iOS) นั้นมีวิธีน้อยกว่านั้น
แต่ก่อนจะไปดูว่าการอัดเสียงสายโทรทำอย่างไรบ้าง เราควรรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ "กฎหมาย" และ "ความเป็นส่วนตัว" เพราะการแอบอัดเสียงการสนทนาโดยที่อีกฝ่ายไม่รับรู้และไม่ยินยอม ในหลายประเทศถือว่าผิดกฎหมายร้ายแรง และในไทยเอง กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ก็เข้มงวดมาก การกระทำแบบนี้อาจทำให้เจอปัญหาได้ ดังนั้น การใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีอัดเสียงสายโทรศัพท์ ต้องใช้อย่างรับผิดชอบและเคารพสิทธิของผู้อื่น
***4 วิธีอัดเสียงบน Android
วิธีที่ 1 คือใช้ฟีเจอร์ที่ติดมากับเครื่อง เนื่องจากมือถือ Android บางรุ่น บางยี่ห้อ จะมีปุ่ม "บันทึก" หรือ "Record" ขึ้นมาให้กดบนหน้าจอตอนโทรเลย วิธีนี้ง่ายที่สุดแต่หลายรุ่นก็ไม่มี หรืออาจจะถูกปิดไว้โดยผู้ให้บริการเครือข่ายหรือข้อจำกัดในบางประเทศ
วิธีที่ 2 คือใช้แอปพลิเคชันเสริม ซึ่งจะตอบโจทย์เครื่องที่ไม่มีฟีเจอร์บันทึกสายโทร แอปที่พึ่งพาได้จะมีให้เลือกบนร้าน Google Play Store ปัจจุบันมีแอปชื่อดังอย่าง Cube ACR หรือ Automatic Call Recorder แต่ต้องระวังเพราะช่วงหลัง Google เริ่มจำกัดการเข้าถึงของแอปกลุ่มนี้เพื่อความปลอดภัย ทำให้บางแอปอาจจะใช้งานไม่ได้ หรืออาจจะต้องไปเปิดการตั้งค่าบางอย่างที่เสี่ยงต่อข้อมูลส่วนตัว
วิธีที่ 3 คือใช้อุปกรณ์อีกเครื่อง นี่คือวิธีสุดคลาสสิกและง่ายที่สุด แค่เปิดสปีกเกอร์โฟน แล้วก็เอาโทรศัพท์อีกเครื่อง หรือเครื่องอัดเสียง มาจ่ออัดไว้ คุณภาพเสียงอาจจะไม่ดีที่สุด มีเสียงรบกวนบ้าง แต่มันเป็นวิธีที่แนบเนียนที่สุด เพราะไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ ไปที่ปลายสายเลย
วิธีสุดท้ายสำหรับ Android จะเป็นแนวขั้นสูงแอดวานซ์ นั่นคือใช้บริการ Google Voice หรือ VoIP สำหรับภาคธุรกิจ ซึ่งมีฟีเจอร์ครบครัน แต่อาจมีค่าใช้จ่ายและตั้งค่ายุ่งยาก
***iPhone ก็ทำได้
ที่ผ่านมา iPhone ขึ้นชื่อว่า "หิน" มากในเรื่องการอัดเสียง ต้องใช้แอปนอกระบบที่ทำงานซับซ้อนและเสียเงินรายปีราคาแพง แต่ล่าสุด Apple ประกาศแล้วว่าใน iOS 18.1 นั้นมีฟีเจอร์อัดเสียงการโทรศัพท์ติดมากับเครื่องเลยเรียบร้อย
ทันทีที่กดปุ่มอัดเสียงบน iPhone ระบบจะประกาศด้วยเสียงอัตโนมัติให้ทั้งสองฝั่งได้ยินชัดๆ เลยว่า "This call will be recorded" หรือ "สายนี้จะถูกบันทึกเสียง"! พูดง่ายๆ คือ Apple เลือกที่จะโปร่งใสและแก้ปัญหาเรื่องกฎหมายด้วยวิธีนี้ ไม่มีทางที่ใครจะแอบอัดเสียงใครได้แบบเงียบๆ ผ่านฟีเจอร์นี้แน่นอน ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
และไม่เพียงแค่อัดเสียง แต่ยังสามารถถอดเทปเป็นข้อความให้ได้ด้วย
ที่สุดแล้ว ไม่ว่าคลิปเสียงที่กำลังเป็นข่าวจะถูกบันทึกด้วยวิธีไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ ทุกการสนทนาในยุคนี้มีโอกาสที่จะถูกบันทึกได้เสมอ ดังนั้น การใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้จึงต้องมาพร้อมกับความตระหนักรู้ ความรับผิดชอบ และการเคารพในสิทธิความเป็นส่วนตัว ที่ควรถูกหยิบมาพิจารณาให้ดีก่อนจะมีการตัดสินใจปล่อยคลิปเสียงออกไปทำร้ายใคร.