ส่องความสำเร็จสุดปังบริการส่งด่วน EMS ของไปรษณีย์ไทย ไตรมาสเดียวโตกว่า 6.88% ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ พร้อมยกระดับส่งด่วนพัสดุทุกรูปแบบด้วยกลยุทธ์ “Parcel Defined Logistics” ตอบโจทย์ทุกการส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชูคอนเซปต์ “EMS พัสดุใจ” เพราะของทุกชิ้นมีความหมาย มากกว่าพัสดุ คือใจที่ให้กัน
กล่าวได้ว่า โตวันโตคืนอย่างน่าดีใจสำหรับบริการส่งด่วน EMS ของไปรษณีย์ไทย เพราะเพียงแค่ไตรมาสแรกของปี 2568 เทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว มีอัตราการเติบโตสูงถึง 6.88% และคาดว่าตลอดทั้งปีจะมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 4.05% พร้อมรองรับตลาด E-Commerce ที่โตขึ้นต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยปีละ 6% และมีแนวโน้มที่มูลค่าการตลาดในปี 2568 จะสูงถึง 7.5 แสนล้านบาทจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ทั้งนี้ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ยืนยันว่า ไปรษณีย์ไทยพร้อมเดินหน้ามุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายและศักยภาพการขนส่ง เพื่อเป็นพันธมิตรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศได้อย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับความสำเร็จของบริการส่งด่วน EMS ไปรษณีย์ไทย ที่เติบโตต่อเนื่อง ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยหรือความบังเอิญ แต่เกิดจากพลังความคิดสร้างสรรค์ในการสรรหากลยุทธ์ใหม่ ๆ มาตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ โดยกลยุทธ์สุดเด็ดของ EMS ไปรษณีย์ไทย ก็คือ “Parcel Defined Logistics”
ความน่าสนใจของกลยุทธ์ “Parcel Defined Logistics” อยู่ที่การออกแบบระบบขนส่งให้เหมาะสมกับพัสดุทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะพัสดุชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ มีน้ำหนักมาก สินค้ามูลค่าสูง หรือแม้กระทั่งผลผลิตจากเกษตรกรอย่างต้นไม้ ผลไม้สด รวมไปจนถึงสิ่งมีชีวิต เช่น ปลากัดและกบสวยงาม ก็สามารถส่งได้ โดยมีบริการเด่น ๆ พร้อมรองรับทุกการส่ง ทั้ง EMS JUMBO ส่งด่วนของใหญ่ ของหนัก , EMS ส่งด่วนผลไม้ และ EMS WORLD ส่งด่วนทั่วโลก
นอกจากนั้น ไปรษณีย์ไทยยังได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลกว่า 400 แห่งในการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ผู้ป่วยถึงบ้าน อีกทั้งพัฒนาบริการเสริมต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ เช่น บริการเก็บเงินปลายทาง (COD) บริการรับประกัน เพิ่มความเชื่อมั่นในการส่งพัสดุที่มีมูลค่าสูง คุ้มครองตามมูลค่าสิ่งของ สูงสุดถึง 50,000 บาท
เหนืออื่นใดคือความใส่ใจในการส่งมอบคุณภาพบริการที่ดีที่สุดทุกขั้นตอน ด้วยความเชื่อว่าของทุกชิ้นมีความหมายต่อจิตใจผู้ส่งและผู้รับ เป็น “พัสดุใจ” ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกล ไปรษณีย์ไทยจึงให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในไปรษณีย์และศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ ติดตั้ง GPS ติดตามรถขนส่งไปรษณีย์ ตลอดจนมีเครื่องคัดแยกพัสดุแบบกล่อง (Cross Belt Sorter) ที่มีประสิทธิภาพ
ขณะเดียวกันยังมีเครือข่ายบุรุษไปรษณีย์หรือ “พี่ไปรฯ” ที่มีความเชี่ยวชาญด้านพื้นที่ ครอบคลุมทั่วประเทศ และสายด่วน เบอร์พี่ไปรฯ 1505 สำหรับใช้ติดต่อผู้รับ จดจำง่าย มั่นใจได้ว่าเป็นพี่ไปรฯ ตัวจริง ไม่ใช่มิจฉาชีพ รวมถึง THP Contact Center 1545 ที่พร้อมดูแลและให้คำปรึกษาในการส่งพัสดุตลอดทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยพร้อมส่งต่อ “พัสดุใจ” เพื่อให้ทุกความห่วงใยไปถึงมือคนสำคัญอย่างมั่นใจ ด้วยบริการที่ออกแบบมาเพื่อดูแลทั้งผู้คนและธุรกิจอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญทั้งเรื่องคุณภาพ ความน่าเชื่อถือ รวมทั้งราคาและความคุ้มค่าในทุกการส่งที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยบริการ EMS ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
• EMS ส่งด่วนพัสดุที่เริ่มต้นเพียง 32 บาท ส่งได้สูงสุดถึง 30 กิโลกรัม
• EMS JUMBO ส่งด่วนของใหญ่ ของหนัก เริ่มต้น 200 บาท ส่งได้ถึง 200 กิโลกรัม
• EMS ส่งด่วนผลไม้ เริ่มต้น 60 บาท สำหรับ 3 กิโลกรัม
• EMS WORLD ส่งด่วนทั่วโลก ที่ครอบคลุม 95 ประเทศทั่วโลก ค่าส่งเริ่มต้นเพียง 640 บาท ส่งได้สูงสุดถึง 30 กิโลกรัม
โดยพัสดุทุกชิ้นสามารถติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ได้ผ่านระบบ Track & Trace และเพื่อความสะดวกสูงสุด ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ หรือเรียก “พี่ไปรฯ” ไปรับพัสดุถึงหน้าบ้านฟรีผ่าน LINE @Thailandpost ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thailandpost.co.th หรือ THP Contact Center 1545