ซิสโก้ (Cisco) จุดพลุงาน LIVE 2025 จับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ลงระบบไอทีล็อตใหญ่หวังดันลูกค้าเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันและอัปประสิทธิภาพการทำงาน ย้ำธุรกิจยุค AI ต้องบูรณาการความปลอดภัยไซเบอร์ และอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานคู่ไปด้วย ชี้ลูกค้า Cisco แห่ปรับระบบให้สามารถ "รักษาตัวเองอัตโนมัติ” ตรวจจับความผิดปกติในระบบก่อนที่จะเกิดปัญหา ยก APJC หรือเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน เป็นภูมิภาคที่เริ่มเห็นการใช้งาน AI ในรูปแบบการอนุมานหรือ Inferencing เพิ่มขึ้นรวดเร็ว
ที่สำคัญ เจ้าพ่อโซลูชันเครือข่ายไอทีสัญชาติอเมริกันอย่าง Cisco ยังพูดถึง “เอไอ แคนวาส” (AI Canvas) แพลตฟอร์มจัดการระบบเครือข่ายแบบใหม่ที่สามารถ “สร้างอินเทอร์เฟซอัตโนมัติ” จากการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยสามารถเนรมิตแดชบอร์ดกราฟิกเมื่อ AI ตรวจพบปัญหา หรือแปลงคำถามของผู้ใช้เป็นภาพแผนภูมิได้อัตโนมัติเมื่อถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพเครือข่าย ทั้งหมดนี้สามารถทำงานข้ามอุปกรณ์ และเชื่อมข้อมูลจากหลายแหล่งทั้งไฟร์วอลล์ เน็ตเวิร์ก และคลาวด์มาแสดงในหน้าเดียว กลายเป็น “เจเนอเรทีฟยูไอ” (Generative UI) หรือส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ AI สร้างขึ้นมาเองโดยไม่ต้องมีมนุษย์เป็นผู้ออกแบบอีกต่อไป
นอกจาก AI Canvas ความเคลื่อนไหวล่าสุดใน Cisco Live 2025 ยังมีการพัฒนา Agentic Operations ที่ทำให้ระบบเครือข่ายไอทีสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ รวมถึงการเปิดตัวอุปกรณ์สวิตช์อัจฉริยะและเราท์เตอร์ที่ผสานความปลอดภัยเข้ากับเครือข่าย
***เปิดยุคใหม่ “โครงสร้างพื้นฐานปลอดภัย” เพื่อ AI
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ เมืองซานดิเอโก บริษัท Cisco ได้เปิดตัวนวัตกรรมสุดล้ำที่ถูกวาดหวังว่าจะทำให้องค์กรต่างๆ ปรับตัวและเติบโตในยุค AI ได้อย่างมั่นคง ทั้งอุปกรณ์กลุ่ม "พื้นที่ทำงานอัจฉริยะ" ซึ่ง Cisco ได้พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับเครือข่ายในมหาวิทยาลัย ธุรกิจที่มีหลายสาขา และโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมด้วยระบบจัดการแบบรวมศูนย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนากล้อง Room Vision PTZ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะทำให้การประชุมของหน่วยงานดูเหมือนภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด และยังมี Webex AI Agent ที่จะช่วยลูกค้าแก้ปัญหาด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ Cisco ยังเปิดตัวโซลูชันกลุ่ม AgenticOps ที่เน้นการดำเนินงานที่สะดวกและง่าย หนึ่งในนั้นคือ AI Canvas ซึ่งเป็นส่วนต่อประสานผู้ใช้แบบ Generative ตัวแรกในอุตสาหกรรม ที่ช่วยให้ทีมเครือข่ายและทีมดูแลความปลอดภัยทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์
และที่สำคัญที่สุดคือ Deep Network Model ของ Cisco ซึ่งเป็นการนำ AI ที่เรียนรู้จากฐานความรู้มหาศาลของ Cisco นำไปสู่การเกิดขึ้นของ AI ที่เข้าใจเครือข่ายคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ AI ที่ตอบคำถามได้ทั่วไป
ในอีกด้าน Cisco ยังเน้นโซลูชันด้านความปลอดภัยเพื่อยุค AI โดยยกระดับ Hybrid Mesh Firewall และ Universal Zero Trust Network Access หรือ ZTNA พร้อมเปิดตัว Firewall ซีรีส์ใหม่ 6100 และ 200 ที่ให้ประสิทธิภาพคุ้มค่า อุปกรณ์ใหม่ไลน์นี้สามารถใช้งานกับ Cisco Security Cloud ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ Agentic AI อย่างปลอดภัย
***ร่วมมือ Hyperscaler สร้าง Data Center ยุคใหม่
นายจีทู พาเทล, ประธานและเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของซิสโก้ กล่าวว่า Cisco กำลังเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในด้านนวัตกรรม เมื่องค์กรต่างๆ เริ่มใช้ Agentic AI เพื่อทำงานอัตโนมัติและแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และ Cisco พร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าทุกขนาด ล่าสุด Cisco ได้ร่วมมือกับไฮเปอร์สเกลเลอร์ หรือผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น เอดับลิวเอส (AWS), กูเกิลคลาวด์ (Google Cloud) และผู้ให้บริการคลาวด์ยุคใหม่ เช่น จีโฟร์ตี้ทู (G42), ฮิวแมน (Humane) เพื่อสร้างดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นใหม่สำหรับ AI
จีทูย้ำว่า Cisco มุ่งเน้นการออกแบบเครือข่ายสำหรับการฝึกสอน AI Training และการอนุมาน Inference โดยลดความหน่วง (latency) และประหยัดพลังงาน บริษัทได้ประกาศความร่วมมือสร้าง Data Center รุ่นใหม่ครั้งล่าสุดในตะวันออกกลาง คือซาอุดีฯและ UAE เบื้องต้นเตรียมขยายไปยังอินเดียต่อไป
นอกจากนี้ Cisco ยังให้ความสำคัญกับการฝังความปลอดภัยในทุกเลเยอร์ของเครือข่าย โดยโซลูชัน AI Defense นั้นใช้ AI เพื่อป้องกันภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และตรวจสอบความปลอดภัยของ AI Models เอง นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการมุ่งสร้าง "ระบบที่คาดการณ์ได้" แม้ AI จะทำงานแบบไม่แน่นอน (Non-Deterministic) ซึ่ง Cisco มีการใช้ AI Defense ภายในองค์กรตัวเอง เพื่อทดสอบระบบก่อนนำไปใช้กับลูกค้า
เมื่อถามว่า Cisco ออกแบบแพลตฟอร์มสำหรับ Agentic Operations อย่างไร? ผู้บริหารย้ำว่า AI Canvas นั้นเป็นแพลตฟอร์มจัดการเครือข่ายด้วย AI ที่มี 3 ฟีเจอร์หลัก คือ 1. โมเดลเฉพาะทางสำหรับเครือข่าย ที่แม่นยำกว่าโมเดลทั่วไป 20% 2. การเชื่อมข้อมูลระหว่างทีม Security, Network, และ IT Operations และ 3. ระบบที่แก้ไขปัญหาเองได้ พร้อมย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงหากผิดพลาด ทั้ง 3 ฟีเจอร์นี้ทำให้ AI Canvas สามารถดึงข้อมูลจากหลายส่วนเพื่อวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเครือข่ายแบบครบต้นจนจบ ช่วยให้ผู้ดูแลระบบไอทีสามารถจัดการนโยบายความปลอดภัยจากจุดเดียว
ที่สุดแล้ว Cisco ย้ำว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และในปีหน้าจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมที่เน้น AI, ความปลอดภัย และความสามารถในการควบคุมที่มากขึ้น ทั้งหมดนี้แม้จะไม่มีการกล่าวถึงประเทศไทยโดยเฉพาะ แต่ผู้บริหารระบุว่าในภูมิภาค APJC โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา (เช่น ไทย, อินโดนีเซีย, เวียดนาม) มีการเติบโตของ AI Inferencing อย่างรวดเร็ว สะท้อนว่า Cisco มองเห็นโอกาสในการร่วมมือกับหน่วยงานรัฐหรือเอกชนไทย เพื่อผลักดันโครงการด้าน AI อย่างจริงจัง.
