เมต้า (Meta) ส่งสัญญาณปักหมุดอัดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ลงในสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตัวจริงที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ดาวรุ่ง AI น้องใหม่ดวงนี้ถูกเดิมพันว่าจะมีพลังมากพอจนอาจเป็นผู้เปลี่ยนเกมส์โลกเทคทั้งใบ
ตัวละครหลักของดีลนี้คือ "สเกล เอไอ" (Scale AI) บริษัทที่ทำหน้าที่เป็น "พี่เลี้ยงข้อมูล" ให้กับโมเดล AI ยักษ์ใหญ่อย่าง Meta และโอเพ่นเอไอ (OpenAI) สิ่งที่ Scale AI คือการจ้างกองทัพผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงดอกเตอร์ดีกรีปริญญาเอกมากมาย มาช่วยติดป้าย จัดหมวดหมู่ และปรับแต่งข้อมูลให้มีคุณภาพสูงสุด เพื่อให้ AI เรียนรู้ได้อย่างแม่นยำ
เรียกว่าถ้า AI เป็นนักเรียน Scale AI จะเปรียบเสมือนครูพิเศษที่คัดสรรตำราเรียนคุณภาพสูงมาให้
หาก Meta ตกลงและได้โอกาสลงทุนใน Scale AI จริง ความสำคัญของการลงทุนครั้งนี้จะสามารถสะท้อนได้หลายทาง หนึ่งในนั้นคือการลงทุนหลักพันหรือหมื่นล้านดอลลาร์นี้บอกเล่าได้ชัดว่ามาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) จะยังคงเดินหน้าเต็มสปีดกับ AI โดยปีนี้ Meta ตั้งเป้าใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 6 หมื่นล้านดอลลาร์ นี่แสดงให้เห็นว่าสงคราม AI ยังต้องไปต่ออีกยาวไกลไม่จบง่ายๆ
ด้านที่ 2 คือข้อมูลกำลังกลายเป็นสนามรบใหม่ เพราะนอกจากชิปและพลังงานแล้ว การได้มาซึ่งข้อมูลคุณภาพสูงกำลังกลายเป็นเรื่องยากขึ้นทุกที และนี่คือจุดที่ Scale AI เข้ามามีบทบาท
ด้านที่ 3 คือ Meta กำลังหาทางต่อยอดธุรกิจอย่างจริงจัง ล่าสุดมีการขยายไปสู่ธุรกิจเทคโนโลยีป้องกันประเทศด้วย โดยร่วมมือกับเพนตากอนในการพัฒนาหมวกกันน็อคเสมือนจริงและ AI สำหรับกองทัพ คาดว่าโปรเจ็กต์อื่นอาจจะตามมาในอนาคตอีก
นอกจากนี้ ดีลในฝันของ Meta ที่อยากลงทุนกับ Scale AI ยังอาจโยงได้ถึงการแข่งขัน AI ระหว่างประเทศที่กำลังร้อนแรงขึ้น หากดูในบริบททั่วโลก หลากหน่วยงานจากหลายประเทศมีการร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพ AI อย่างจริงจัง ล่าสุดคืองาน London Tech Week ที่เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในอังกฤษ นั้นมีเจนเซน หวง (Jensen Huang) จากเอ็นวิเดีย (NVIDIA) ขึ้นเวทีร่วมกับนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาร์เมอร์ (Keir Starmer) โดย NVIDIA ประกาศแผนอบรมบุคลากร 100,000 คนภายในปี 2030 และลงทุนในศูนย์วิจัยที่บริสตอล
ขณะที่ฝรั่งเศสก็มีการจัดงาน Viva Tech พร้อมประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อดึงดูดระบบนิเวศ AI เรียกว่าทุกประเทศต่างก็กำลังหาทางเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจผ่านเทคโนโลยี
ที่สุดแล้ว Scale AI ที่เคยมีมูลค่า 1.400 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 คาดว่าตอนนี้มูลค่าสูงขึ้นมาก และเชื่อว่าจะสูงขึ้นไปอีกตามการต่อสู้ในยุค AI ที่จะไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของข้อมูล และการเตรียมพร้อมรอบด้านเพื่อการรับมือกับอนาคต.
