เปิดความหมายก้าวใหม่ของ AIS กับภารกิจยกระดับ SMEs ไทย ด้วย "AI for Sustainable Nation" และ "AIS Infinite SMEs" มุ่งนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสร้างเศรษฐกิจแบบร่วมกัน ผ่าน 4 เสาหลักยุทธศาสตร์ วางรากฐานดิจิทัลให้ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเชื่อมต่อผู้ประกอบการ SMEs สู่ฐานลูกค้าทั่วประเทศไทยกว่า 50 ล้านราย ก่อนต่อยอดสู่ระดับโลก
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (จำกัด) มหาชน กล่าวว่า ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีมากๆ เพราะเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยให้เราทุกคน บริษัท หรือประเทศที่เล็กๆ อย่างเราสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ ถ้าไม่มีเทคโนโลยีนี้เราไม่สามารถสู้กับประเทศใหญ่ๆ ได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนที่จะร่วมมือกัน
“แคมเปญใหม่ของ AIS ที่เรียกว่า AI for Sustainable Nation คือการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยขับเคลื่อนประเทศไทย เปลี่ยนกลยุทธ์จากพาย 3 ชิ้น มาเป็น 4 เสาหลัก ที่ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแรงมากๆ เนื่องจาก AIS มีการลงทุนไปกว่า 1 ล้านล้านบาท มี 5G ครอบคลุมทั่วประเทศ 95% 4G ครอบคลุม 98% พร้อมกับอีก 3 ส่วนคือ Digital Talent, Digital Safety และ Digital Green”
ในมุมของ AIS ถ้ามองถึงการเป็นบริษัทใหญ่ สามารถโตได้ด้วยตัวคนเดียวอยู่แล้ว แต่ AIS อยากเอาความเติบโตที่ตอนนี้สามารถเชื่อมต่อผู้ประกอบการ ไปสู่ลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือ 45 ล้านเลขหมาย และ 5 ล้านรายจากฟิกซ์บรอดแบนด์ ที่จะช่วยอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะ SME นำสินค้าและบริการ ไปสู่ลูกค้า ถ้าทำสำเร็จทำให้ AIS สามารถทำ Cross-Industry Cooperation หรือความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมได้
ร่วมสร้าง ร่วมโต ร่วมเปลี่ยนอนาคตเศรษฐกิจไทย
สำหรับโครงการ ’AIS Infinite SMEs‘ นับเป็นก้าวสำคัญที่จะเข้าไปช่วยทรานส์ฟอร์มและยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ในไทยด้วยงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการเชื่อมเทคโนโลยี, เชื่อมตลาด และเชื่อมพันธมิตร เพื่อปลดล็อกศักยภาพอย่างไร้ขีดจำกัด ผ่านกลยุทธ์ ‘3ส‘ ที่ประกอบด้วย เสริม ทักษะที่ใช่สำหรับ SMEs สร้าง ระบบหลังบ้านที่เข้มแข็ง ได้มาตรฐาน ISO รองรับการเติบโตในระยะยาว สยายปีก ด้วยการนำศักยภาพของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ AIS มี มาช่วยขยายโอกาสในการเติบโตไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น Infinite Skills เสริมความรู้ SMEs ไทยผ่าน AIS Academy ที่ได้รับการรับรอง ISO 30401 (Knowledge Management Systems) มีเนื้อหาครอบคลุมทั้ง 3 แกนได้แก่ Information Technology, Marketing และ Entrepreneurship พร้อม ร่วมมือกับ F11/Wecosystem จัดทำคอนเทนต์ให้เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีในโลกจริง
ตามด้วย International Standards ยกระดับ SMEs ไทยสู่มาตรฐานสากลผ่านความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและ depa ในการผลักดันมาตรฐาน ISO 29110 และ Infinite Scales จัดทำหลักสูตร Transformative Infinite SME เพื่อตอบโจทย์ SMEs ที่กำลังขยายตัว (Scale-up) และกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ โดยร่วมมือกับพันธมิตรจากทั้งองค์กรภาครัฐเอกชนสถาบันการเงิน
โครงการนี้ จะเข้ามาช่วยปลดล็อก และสร้างโอกาสให้กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่กำลังเผชิญความท้าทาย ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจไทย แม้ SMEs จะมีสัดส่วนถึง 99% ของธุรกิจทั้งหมด และสร้าง GDP กว่า 35% รวมถึงสร้างงาน 70% ให้กับประเทศ แต่พวกเขากลับเผชิญปัญหาเรื่องกำไรต่ำ ต้นทุนการเงินสูง และยังอยู่ในช่วงของการปรับตัวสู่ดิจิทัล และไม่มั่นใจว่าจะเลือกใช้งานเทคโนโลยีใด ที่จะเหมาะสมที่สุด
AIS ได้ศึกษาโจทย์เหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความร่วมมือที่ตรงจุด ไม่ใช่แค่การให้เงิน แต่เป็นการสร้างร่วมกัน เพื่อเป็นพลังสำคัญในการเชื่อมโยงโอกาสให้ SMEs ไทย ร่วมสร้าง ร่วมโต และร่วมเปลี่ยนอนาคตเศรษฐกิจไทย ไปด้วยกัน ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ais.th/infinite-smes
15 ปีแห่งการเดินทาง AIS เคียงข้างผู้ประกอบการไทย
การก้าวเข้ามาเคียงข้างผู้ประกอบการไทยของ AIS ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น เพราะที่ผ่านมาได้เข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการไทยมากว่า 15 ปี ทั้งการเข้ามาร่วมขับเคลื่อนสตาร์ทอัปไทย เข้าไปร่วมผลักดันสตาร์ทอัปกว่า 100 ราย ให้เข้าสู่ตลาดผ่านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของ AIS
ไล่ตั้งแต่ในปี 2011 AIS เริ่มต้นบทบาทผู้บุกเบิกการแข่งขัน Startup รายแรกในประเทศไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันนวัตกรรม ก่อนที่ในปี 2013 เริ่มก่อตั้ง AIS The Startup อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นกลไกหลักในการสนับสนุน Startup อย่างเป็นระบบ จากนั้นในปี 2015 AIS ได้พา Startup ไทยออกสู่ตลาดสากล ขยายโอกาสและศักยภาพของผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก
หลังจากนั้น ในปี 2022 AIS ได้หันมาให้ความสำคัญกับการบ่มเพาะ SMEs เพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล ขยายขอบเขตการสนับสนุนจาก Startup ไปสู่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ตามด้วยการเปิดโอกาสให้ Startup สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเติบโตอย่างยั่งยืน ในปี 2023 และปรับสู่การให้คำปรึกษาเชิงลึก (Intensive Consult) เพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้อย่างยั่งยืน ในช่วงปี 2024 ที่ผ่านมา
