"คอนฟลูเอนท์" (Confluent) ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลหรือ Data Streaming ระดับโลกแสดงความพร้อมแก้ปัญหาบัญชีม้ารวมถึงภัยการเงินในไทยได้แบบเรียลไทม์ ล่าสุดประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยควบคู่กับการลุยตลาดมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนามที่ยังอยู่ในแผน มั่นใจสถานการณ์ที่ผู้ก่อตั้งเทขายหุ้นล็อตใหญ่ปี 2025 ไม่กระทบแผนลุย 4 ประเทศอาเซียน
เคนนี่ ชิน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท คอนฟลูเอนท์ กล่าวว่าถึงเหตุผลที่ Confluent เพิ่งมาลงทุนในไทยเวลานี้ว่า Confluent มีการทำงานกับลูกค้าไทยมานานผ่านทีมในต่างประเทศ แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงตัดสินใจลงทุนเต็มตัวด้วยการจ้างทีมท้องถิ่น และขยายสาขาในกรุงเทพฯ โดยมองว่าตลาดไทยเป็นหนึ่งในตลาดหลักของอาเซียนที่ Confluent ให้ความสำคัญ และมีความพร้อมเติบโตต่อเนื่อง
"สถาบันการเงินและธนาคาร เป็นกลุ่มหลักในประเทศไทยที่สนใจเทคโนโลยี Data Streaming มากที่สุด เนื่องจากต้องปรับตัวหลัง COVID และต้องแข่งขันกับ Digital Banking ที่ผ่านมามีการใช้ Confluent เพื่อแก้ปัญหาจริง เช่น ระบบ Real-Time Fraud Detection ที่ตรวจจับการทุจริตแบบทันที"
Confluent นั้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ก่อตั้งในปี 2014 มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยผู้ก่อตั้งเป็นทีมที่พัฒนาเทคโนโลยี "อาปาเช่ คาฟก้า" (Apache Kafka) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สสำหรับการจัดการและประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ (real-time data streaming)
ที่ผ่านมา Confluent ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ต่อยอดจาก Kafka โดยมีทั้ง Confluent Platform สำหรับติดตั้งใช้งานในองค์กร และ Confluent Cloud บริการคลาวด์ที่บริหารจัดการโดย Confluent ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อ เก็บ ประมวลผล และบริหารจัดการข้อมูลที่ไหลอย่างต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของ Confluent อยู่ที่การสตรีมข้อมูลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้องค์กรประมวลผลข้อมูลทันทีที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับการตรวจจับการฉ้อโกงในธนาคาร การจัดการสินค้าคงคลังในค้าปลีก หรือการวิเคราะห์ข้อมูล IoT จากโรงงาน โดย Confluent ยังมีการผสานรวมระบบ ด้วยตัวเชื่อมต่อ connectors ที่ช่วยให้เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฐานข้อมูล และระบบคลาวด์ต่างค่ายได้ง่าย เช่น AWS, Google Cloud, Azure ด้วย โดยรองรับการใช้งานทั้งแบบ on-premise, ไฮบริด และมัลติคลาวด์ ช่วยให้องค์กรปรับใช้ได้ตามความต้องการ
ปัจจุบัน ธุรกิจค้าปลีกมีการใช้ Confluent เพื่อจัดการสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ รวมถึงธุรกิจยานยนต์ที่ใช้ในศูนย์กลางข้อมูลเรียลไทม์สำหรับโรงงานผลิต ขณะที่ธุรกิจการเงินใช้เพื่อตรวจจับการฉ้อโกงและมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบส่วนตัว และธุรกิจเกม-ความบันเทิงสามารถใช้ Confluent ช่วยจัดการข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพบริการได้ โดยสถิติการเติบโตล่าสุดคือ Confluent มีลูกค้าทั่วโลก 6,400 ราย เพิ่มขึ้น 340 รายในไตรมาสเดียว และกว่า 75% ของ Fortune 500 ใช้เทคโนโลยี Confluent
***มั่นใจผู้ก่อตั้งเทขายหุ้นไม่กระทบ
แม้จะมีรายได้ 271.1 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2568 แต่ Confluent ต้องเผชิญกับภาวะมูลค่าหุ้นผันผวนในเมษายน 2568 สาเหตุไม่ได้อยู่ที่การประเมินว่ารายได้จากการสมัครสมาชิก (subscription revenue) จะเติบโต 19-19.5% ซึ่งต่ำกว่าความคาดหวังของนักลงทุนเท่านั้น แต่อยู่ที่การขายหุ้นโดยผู้บริหารและนักลงทุนภายใน (Insider Selling) ซึ่งมีรายงานการขายหุ้นจำนวนมากโดยผู้บริหาร เช่น CEO อย่าง "เจย์ เครปส์" (Jay Kreps) ที่เทขายไป 465,000 หุ้น มูลค่าประมาณ 14.97 ล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นปี 2568
นอกจากนี้ยังมี CFO "โรฮาน สิวาราม" (Rohan Sivaram) ที่ขายหุ้น 68,350 หุ้นในเดือนกุมภาพันธ์ การขายหุ้นโดยผู้บริหารมักถูกตีความเป็นสัญญาณลบ ส่งผลให้ราคาหุ้นลดลงแทบจะในทันทีที่มีการเปิดเผยแผนขายหุ้นของ Kreps
จุดนี้ เคนนี่มั่นใจว่าการขายหุ้นของผู้ก่อตั้ง Confluent จะไม่มีผลกระทบใดต่อแผนขยายธุรกิจในอาเซียน เนื่องจากการขายหุ้นนี้มีแผนดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป สำหรับแผนปฏิบัติงานในไทยของ Confluent เคนนี่เผยถึงความร่วมมือกับเอดับลิวเอส (AWS) และโร้ดแม็ปในไทยว่าในขณะที่ AWS ประกาศเปิดศูนย์ข้อมูลระดับรีเจียนในไทยแล้ว Confluent จะมุ่งทำงานใกล้ชิดกับ AWS และจะวางแนวทางรองรับการให้บริการแบบโลคัลในอนาคตอันใกล้ แต่ยังไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่แน่นอนได้
เมื่อถามถึงข้อได้เปรียบของ Confluent เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เคนนี่ชี้ว่าทีมผู้ก่อตั้ง Confluent คือผู้พัฒนา Apache Kafka โดยตรง ทำให้มีความเชี่ยวชาญสูง และถือเป็นบริษัทที่ส่งมอบโค้ดให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สผู้พัฒนา Kafka มากที่สุด และพัฒนาต่อยอดเป็นแพลตฟอร์มครบวงจร ดังนั้นบริษัทจึงพร้อมสนับสนุนผู้ใช้เพื่อการบริหารระบบที่สำคัญต่อธุรกิจ ซึ่งจะลดข้อจำกัดจากเดิมที่องค์กรต้องพึ่งพา Open-Source เพียงอย่างเดียว
***จับตายูสเคสไทย "บัญชีม้า" แก้ได้เลย!
นายจอมภพ บูรณสิน วิศวกรโซลูขันอาวุโส Confluent ย้ำว่า Confluent มาไทยพร้อมความพร้อมสนับสนุนองค์กรที่ต้องการระบบ Real-Time Data Streaming แบบครบวงจร โดยเฉพาะภาคการเงิน ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาบัญชีม้าได้ดีกว่าเดิม
“ปัญหาบัญชีม้า ถ้าเรามีระบบที่สามารถตรวจจับได้เรียลไทม์ว่ามีการโอนเงินผิดปกติ เช่น การโอนเงิน 3 ครั้งใน 1 นาที จะสามารถป้องกันได้ทันท่วงทีก่อนที่ความเสียหายจะลุกลาม ธนาคารสามารถล็อคบัญชีที่มีธุรกรรมน่าสงสัยได้เรียลไทม์"
แม้กระบวนการป้องกันนี้จะมีขั้นตอนการทำงานไม่ต่างจากระบบปกติ แต่ Confluent ชี้ว่าการป้องกันภัยการเงินแบบไม่เรียลไทม์นั้นไม่ทันการณ์ เนื่องจากเงินได้ไหลออกไปแล้วและมีความเสียหายเกิดขึ้น ดังนั้นธนาคารที่ใช้ระบบ Confluent ก็จะมีความสามารถป้องกันได้แบบเรียลไทม์
ทั้งหมดนี้ Confluent เตรียมการสนับสนุนลูกค้าไทยโดยมีทีมขายและทีมสนับสนุนท้องถิ่นในประเทศแล้ว โดยสำหรับลูกค้าที่ต้องการการช่วยเหลือเป็นภาษาไทย Confluent กำลังขยายความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในอนาคต และจะมีการจัดงาน Data Streaming World Tour เวิร์กช็อปและสัมมนาครั้งใหญ่ในไทยวันที่ 29 พฤษภาคม 2568.
