กูเกิล (Google) ประกาศเปิดตัว Android 16 และ Wear OS 6 ที่มาพร้อมแนวทางการออกแบบใหม่ Material 3 Expressive พร้อมขยายขีดความสามารถ Gemini ให้รองรับการทำงานบนอุปกรณ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่สมาร์ทโฟน สมาร์ทวอทช์ ระบบในรถยนต์ โทรทัศน์ ไปจนถึงอุปกรณ์ XR (Extended Reality)
สำหรับ การเปลี่ยนแปลงของระบบปฏิบัติการครั้งนี้ หลักๆ คือการนำ Material 3 Expressive มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ Android 16 และ Wear OS 6 ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ บนความลื่นไหล เป็นส่วนตัว และสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
รวมถึงการนำระบบแอนิเมชันที่มีความลื่นไหล นุ่มนวล และมีชีวิตชีวา อย่างการตอบสนองเมื่อผู้ใช้ปัดการแจ้งเตือน หรือการสั่นตอบรับ (haptic rumble) เมื่อปิดแอปพลิเคชันในหน้าล่าสุด
ปรับให้บริเวณพื้นหลังของหน้าต่างแจ้งเตือน (Notification Shade)ให้เบลอสร้างมิติ ทำให้การใช้งานดูลื่นไหล ปรับการตั้งค่าด่วน (Quick Settings) ให้เข้าถึงฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อย เช่น ไฟฉาย หรือโหมดห้ามรบกวน
พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ Live Updates ช่วยใติดตามการแจ้งเตือนความคืบหน้าจากแอปพลิเคชัน เพิ่มธีมสีไดนามิกและแบบอักษรใหม่ที่จะนำไปใช้ทั่วทั้งระบบ และแอปฯ ของ Google
ขณะที่ ใน Wear OS 6 ออกแบบเน้นที่นาฬิกาหน้าปัดทรงกลม มีแอนิเมชันเลื่อนโค้งตามหน้าจอ เพิ่มแป้นพิมพ์ การควบคุมมีเดียด้วยการเคลื่อนไหว เลือกธีมสีสำหรับหน้าปัด และระบบต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Pixel จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ทดลองใช้ Android 16 และ Wear OS 6 ภายในปลายปีนี้
นอกจากการอัปเดตระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่แล้ว กูเกิล ยังประกาศขยายผู้ช่วย AI Gemini ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ Wear OS ช่วยให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้
เพิ่ม Gemini ให้ผู้ใช้งาน Android Auto รวมถึงรถยนต์ที่มี Google Built-in เพื่อให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้แม่นยำขึ้น อย่างการค้นหาเส้นทาง สถานีชาร์จ หรือการสรุปข้อมูลการแจ้งเตือน ไปจนถึงแปลภาษาให้ผูใช้ขณะขับขี่
ส่วนใน Google TV จะมี Gemini เข้ามาเสริมในการแนะนำภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับเด็ก การค้นหาวิดีโอยูทูปที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ และมีแผนที่จะขยาย Gemini ไปยังอุปกรณ์ Android XR อย่างชุดหูฟังและแว่นตาอัจฉริยะของ Samsung ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้
