จับทิศทางกูเกิล (Google) เจ้าพ่อวงการไอทีอาจต้องขายโปรแกรมเบราว์เซอร์ ”โครม” (Chrome) ล่าสุดพบบริษัทด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างแชตจีพีที (ChatGPT) กำลังจ้องจะซื้อ เพื่อหาทางแทรกบริการอัจฉริยะให้ชาวเน็ตในวงกว้าง
สัญญาณสั่นสะเทือนวงการเทคโนโลยีนี้เป็นผลต่อเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาสหรัฐฯ ได้ตัดสินว่าการดำเนินธุรกิจของ Google นั้นเข้าข่ายผูกขาดการค้นหาออนไลน์ ในอุตสาหกรรมเสิร์ชเอนจินอย่างผิดกฎหมาย และในสัปดาห์ปลายเมษายน 2025 นี้ Google ได้กลับเข้าสู่ศาลอีกครั้งในการพิจารณาบทลงโทษ เพื่อกำหนดผลที่จะตามมาหาก Google แพ้การอุทธรณ์คำตัดสินเดือนสิงหาคม
เบื้องต้น สื่อต่างประเทศวิเคราะห์ว่ามาตรการหนึ่งที่อาจจะส่งผลกระทบใหญ่ต่อวงการเทคโนโลยีคือ Google อาจถูกบังคับให้ขายเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งมีดีกรีเป็นเบราว์เซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการเปลี่ยนมือเจ้าของ Chrome จึงอาจสร้างแรงกระเพื่อมมหาศาลในตลาดออนไลน์อนาคต
***ยืนหนึ่งตลาดเบราว์เซอร์โลก
ตามข้อมูลจาก Statista ในปี 2024 Chrome ครองส่วนแบ่งตลาดเบราว์เซอร์ทั่วโลกถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ทิ้งห่าง Safari ของ Apple ที่ครองตลาดเพียงแค่ 19 เปอร์เซ็นต์
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โต้แย้งว่า เนื่องจากความแพร่หลายของ Chrome การที่เบราว์เซอร์นี้ผูกติดกับ Google Search อย่างแนบแน่นนั้นช่วยให้ Google รักษาความเป็นผู้นำในตลาดการค้นหาไว้ได้ ซึ่งหากมีคำสั่งใก็กูเกิลต้องขาย Chrome ผู้ที่อยากได้ Chrome หลายบริษัทก็พร้อมที่จะฉกฉวยโอกาสนี้ทันที
***ไม่ใช่แค่ ChatGPT
ยาฮู (Yahoo) ซึ่งปัจจุบันควบคุมส่วนแบ่งตลาดการค้นหาบนเดสก์ท็อปประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ได้แสดงความสนใจอย่างชัดเจนในการเป็นเจ้าของและดำเนินการเบราว์เซอร์เว็บของตัวเอง เช่นเดียวกับยักษ์ใหญ่วงการ AI ที่กำลังจับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
ไบรอัน โพรโวสต์ (Brian Provost) ผู้จัดการทั่วไปของ Yahoo Search เผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ของตัวเองอย่างแข็งขัน และอยู่ในการเจรจากับบริษัทอื่นๆ เกี่ยวกับการซื้อเบราว์เซอร์ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า Yahoo จะสนใจซื้อ Chrome หาก Google ต้องขายจริง
ขณะที่ นิค เทิร์ลลีย์ (Nick Turley) ผู้บริหารของ ChatGPT กล่าวว่า OpenAI จะสนใจซื้อ Chrome หากเป็นไปได้ และเสริมว่าเบราว์เซอร์ Chrome ที่ผสานรวมกับ ChatGPT จะสามารถมอบประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้ผู้ใช้แน่นอน
นอกจากนี้ ”เพอร์เพล็กซิตี้” (Perplexity) บริษัท AI ที่ตอนนี้ได้รับเลือกให้ติดตั้งล่วงหน้าบนโทรศัพท์ Motorola ก็ส่งสัญญาณสนใจขอสิทธิ์บริหาร Chrome เช่นกัน
ดมิทรี เชเวเลนโก (Dmitry Shevelenko) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจชี้ว่า Perplexity สามารถดำเนินการกับ Chrome ในขนาดปัจจุบันได้โดยไม่ลดคุณภาพหรือคิดค่าบริการจากผู้ใช้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า Perplexity จะให้ความสำคัญกับการผสาน AI เข้าไปในบริการ Chrome เช่นเดียวกับแผนของ OpenAI ซึ่ง Nick Turley จาก ChatGPT เคยกล่าวว่าหากได้เป็นเจ้าของ Chrome บริษัทก็จะมีโอกาสเปิดทางให้ผู้ใช้ได้รู้จักกับประสบการณ์ท่องเน็ตแบบ AI-first
ในส่วนนี้ Perplexity นั้นกำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ของตัวเองในชื่อ Comet โดยจุดเด่นสำคัญคือการรวบรวมข้อมูลจากนอกแอปพลิเคชันเพื่อทำความเข้าใจผู้ใช้ให้ดีขึ้น เป้าหมายคือเพื่อให้เบราว์เซอร์สามารถแสดงโฆษณาเฉพาะเจาะจงตามกิจกรรมของผู้ใช้
ไม่ว่าปฏิบัติการ "บังคับขาย Chrome" นี้จะออกผลอย่างไร แต่ Google ยังคงเดินหน้าโปรโมทเครื่องมือ AI ของตัวเองต่อเนื่อง ล่าสุดมีรายงานว่า "วีโอทู" (Veo 2) เครื่องมือสร้างวิดีโอของ Google กำลังเปิดตัววงกว้างใน "เจมิไนแอดวานซ์" (Gemini Advanced) ทำให้ผู้สมัครสมาชิก Advanced สามารถสร้างคลิปวิดีโอ 8 วินาทีโดยใช้คำสั่งข้อความ และผลลัพธ์โดยรวมน่าประทับใจ เบื้องต้นมีข่าวลือว่าเวอร์ชัน freemium ของฟีเจอร์นี้จะถูกเพิ่มใน Gemini แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายในอนาคตด้วย
ในส่วน Gemini เองก็กำลังถูกพัฒนาสู่หลายแพลตฟอร์ม โดย Google ยืนยันว่าผู้ช่วย AI ของบริษัทจะใช้งานได้บนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แท็บเล็ต นาฬิกาอัจฉริยะ และหูฟังในช่วงปลายปี 2025.
