Google Cloud โชว์เทคโนโลยีครั้งใหญ่ภายในงาน Googl Cloud Next 2025 ครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์มข้อมูลและ AI, โมเดล AI, AI agent และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงความสามารถแบบมัลติคลาวด์ ระบุปีที่ผ่านมามีการใช้งาน Vertex AI เพิ่มขึ้น 20 เท่า ส่วน Google Workspace เรียกใช้ผู้ช่วยกว่า 2 พันล้านรายการต่อเดือน
โทมัส คูเรียน CEO ของ Google Cloud กล่าวว่า AI นำเสนอโอกาสที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยพบเห็นมาในประวัติศาสตร์ โดย AI มีพลังในการยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และพลิกโฉมกระบวนการต่าง ๆในระดับที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน
ทั้งนี้ Google ได้นำการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) มาใช้กับผลิตภัณฑ์มานานกว่า 20 ปีแล้ว และการลงทุนใน AI นั้นหยั่งรากลึกในภารกิจหลัก คือการจัดระเบียบข้อมูลของโลกและทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเข้าถึงได้และเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน
Google Cloud ถือเป็นส่วนขยายที่สอดคล้องกับภารกิจของ Google เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้กับองค์กร โดยถือว่า AI เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทรงพลังที่สุดในการช่วยให้ลูกค้า นักพัฒนา และพันธมิตรของเราพัฒนาภารกิจของตนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปัจจุบัน Google Cloud ทำงานอยู่ใน Google Cloud Region จำนวน 42 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศอินโดนีเซีย และสิงคโปร์ พร้อมแผนการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปยังไทย และมาเลเซีย โดย Google Cloud ให้บริการ AI Hypercomputer ผ่านทาง Cloud Region เป็นระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และรูปแบบการบริโภคที่ยืดหยุ่นช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมประสิทธิภาพคุ้มค่าระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม
สำหรับเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นกับ AI Hypercomputer ได้แก่ คือการเปลี่ยนมาใช้งาน หน่วยประมวลผลเทนเซอร์ Ironwood (TPU) รุ่นที่ 7 สามารถประมวลผล 42.5 เอ็กซาฟล็อปต่อพ็อด มีตัวเลือก GPU ของ NVIDIA ที่ครอบคลุม นอกจากนี้ Google ยังเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่จะนำเสนอ GPU Vera Rubin รุ่นถัดไป
ในส่วนของ Google Data Centers และ Google Cloud Regions ที่มีการเชื่อมต่อกันผ่านสายไฟเบอร์ยาวกว่า 2 ล้านไมล์ เพื่อรองรับบริการที่จำเป็น เช่น Gmail, YouTube และ Google Search สำหรับผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก และหลังจากนี้ Google Cloud จะทำให้เครือข่ายส่วนตัวทั่วโลกนี้พร้อมใช้งานสำหรับองค์กรต่าง ๆ ผ่านบริการใหม่ที่เรียกว่า Cloud Wide Area Network (WAN)
“Cloud WAN เป็นบริการที่ได้รับการจัดการอย่างเต็มรูปแบบ เชื่อถือได้ และปลอดภัย ซึ่งช่วยเปลี่ยนโฉมโครงสร้าง WAN ขององค์กร โดยมอบการปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายที่สูงถึง 40% ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของได้มากถึง 40%”
นำ Google DeepMind มาสู่องค์กร
แพลตฟอร์ม Vertex AI ของ Google Cloud ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงโมเดลแนวหน้าระดับโลกที่หลากหลายของ Google DeepMind ได้ ซึ่งแต่ละโมเดลได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละองค์กร
ไม่ว่าจะเป็น โมเดล Gemini 2.5 เป็นโมเดลการคิดที่สามารถใช้เหตุผลผ่านกระบวนการคิดของตนเองก่อนตอบสนอง โดยก่อนหน้านี้ Google Cloud ได้นำ Gemini 2.5 Pro เข้ามาให้ใช้งานผ่าน Vertex AI และภายในงาน Next '25 ก็ได้ประกาศว่า Gemini 2.5 Flash กำลังจะเปิดให้ใช้งานผ่าน Vertex AI ด้วยเช่นกัน
โดย Gemini 2.5 Flash เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกรณีการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การตอบสนองอย่างรวดเร็วในระหว่างการโต้ตอบกับลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการสรุปแบบเรียลไทม์หรือการเข้าถึงเอกสารอย่างรวดเร็ว Gemini 2.5 Flash สามารถปรับความลึกของการใช้เหตุผล และองค์กรสามารถควบคุมประสิทธิภาพการทำงานตามงบประมาณได้
ยังมี Imagen 3 โมเดลการแปลงข้อความเป็นรูปภาพที่มีคุณภาพสูงสุด, Lyria โมเดลการแปลงข้อความเป็นเพลงสำหรับองค์กร ช่วยแปลงข้อความธรรมดาให้กลายเป็นคลิปเพลงความยาว 30 วินาที
โมเดล AI กว่า 200 รายการใน Vertex AI
สำหรับผู้ใช้งานในภาคธุรกิจ Vertex AI ได้ขยายขีดความสามารถในการเข้าถึงโมเดล AI หลากหลายจากทั้ง Google และบริษัทพันธมิตร รวมถึงโมเดลเปิดจาก DeepSeek และ Meta อ
นอกจากนี้ Vertex AI ยังยกระดับความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์ด้วยการ Grounding ผ่าน Google Maps และแหล่งข้อมูลจากพันธมิตรภายนอก พร้อมแดชบอร์ดและเครื่องมือปรับแต่งโมเดลที่ใช้งานง่าย รวมถึง Live API สำหรับการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ด้วยเสียงและวิดีโอ
ขณะเดียวกัน Google Cloud ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการสนับสนุน Multi-Agent Ecosystem ด้วยการเปิดตัว Agent Development Kit (ADK) เฟรมเวิร์กโอเพนซอร์สที่ช่วยให้องค์กรพัฒนาระบบ Multi-Agent ได้ง่ายและควบคุมได้แม่นยำ พร้อมรองรับ Model Control Protocol (MCP)
นอกจากนี้ Google Cloud ยังเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่พัฒนา Agent2Agent (A2A) protocol แบบเปิด ซึ่งจะช่วยให้ AI agent ที่สร้างจากต่างองค์กรสามารถสื่อสารกันได้ด้วยภาษากลางเดียวกัน โดยมีพันธมิตรชั้นนำกว่า 50 รายร่วมพัฒนา
โดยมี Agent Garden ซึ่งเป็นชุดตัวอย่างและเครื่องมือพร้อมใช้งานบน ADK ช่วยให้องค์กรเชื่อมต่อ AI agent ของตนกับตัวเชื่อมต่อสำเร็จรูปกว่า 100 ตัวได้อย่างง่ายดาย
Google Agentspace: AI สำหรับทุกคนในองค์กร
Google Agentspace ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปลายปี 2024 ได้รับการเสริมความสามารถใหม่ ๆ ที่สำคัญ เช่น การเชื่อมต่อกับ Chrome Enterprise, Agent Gallery (แหล่งรวม AI agent ทั้งหมด), Agent Designer (สร้าง AI agent เองแบบ No-Code), Idea Generation Agent และ Deep Research Agent
นอกจากนี้ ระบบการค้นหาผ่าน Google Agentspace บน Google Distributed Cloud (GDC) จะเปิดให้ทดลองใช้งานในไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้อย่างปลอดภัยจากจุดเดียว
การประกาศเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Google Cloud ในการมอบเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและทรงพลัง เพื่อให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้ประโยชน์และสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างเต็มที่