อาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) ยกระดับวงการคลาวด์ระรอกใหญ่ พร้อมให้บริการโมเดล AI ล่าสุดจาก Qwen ชูปรับเพิ่มประสิทธิภาพครั้งใหญ่ในแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ Platform for AI รองรับโซลูชัน generative AI และ LLMs ที่สามารถสเกลได้-คุ้มค่าใช้จ่าย-ใช้งานง่าย การันตีผสานความสามารถอนุมาน AI แบบเนทีฟที่ขับเคลื่อนโดย Qwen ไว้ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์แบบคลาวด์-เนทีฟ PolarDB ควบเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ AI ใหม่ในลักษณะ SaaS: AI Doc และ Smart Studio
นางสาวเซลิน่า หยวน ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่าบริษัทกำลังเปิดตัวชุดอัปเดทประสิทธิภาพ Platform-as-a-Service (PaaS) และโซลูชัน AI เพื่อตอบสนองความต้องการการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลทั่วโลก การอัปเกรดเหล่านี้ช่วยให้บริษัทให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถสเกลและสร้างนวัตกรรมในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI
"คลาวด์และ AI กลายเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตทั่วโลก เราจึงมุ่งมั่นเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผลิตภัณฑ์หลักของเรา เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลาของลูกค้า"
1 ใน 6 ก้าวใหญ่ที่อาลีบาบา คลาวด์ ประกาศในไตรมาส 1 ปี 68 คือการเปิดตัวโมเดล AI ใหม่ล่าสุดจาก Qwen ทั้ง Qwen-Max (MoE model), QwQ-Plus, QVQ-Max, และ Qwen2.5-Omni-7b ล้วนเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ในวงการ LLM โดยเฉพาะ QwQ-Plus และ QVQ-Max ที่มีศักยภาพในการ "ให้เหตุผล" ทั้งจากข้อความและภาพ ซึ่งเป็นจุดที่ LLM ส่วนใหญ่ยังทำได้ไม่ดีนัก รวมถึงความสามารถด้าน Chain-of-Thought หรือระบบ reasoning บนมัลติโมดัล ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่หลายคนมองว่า "นี่คือของจริง” ที่จะปฏิวัติวงการ AI
ก้าวที่ 2 คือ PAI (Platform for AI) ที่รองรับโมเดลขนาดใหญ่พิเศษ (Super-Large Models) โดยอาลีบาบา คลาวด์ อธิบายว่าการใช้งานแบบ Multi-Node และ MoE แบบกระจาย เป็นโครงสร้างที่ตอบโจทย์ยุคของ AI ที่ต้องรองรับ long-context และโหลดสูงมาก ซึ่งสะท้อนว่า Alibaba Cloud กำลังเตรียม “ทางด่วน” สำหรับโมเดล AI ใหญ่ยักษ์แห่งอนาคต
ก้าวที่ 3 คือ Model Gallery ที่มีมากถึง 300 โมเดลแบบ No-Code โดยย้ำว่าเป็นโอเพ่นซอร์สและใช้งานง่ายแบบไม่ต้องเขียนโค้ด เหมาะกับทั้งนักพัฒนาและธุรกิจ SME ซึ่งถือเป็น AI ที่เท่าเทียม (democratization) ที่ช่วยให้คนทั่วไปเข้าถึง AI ล้ำสมัยได้มากขึ้น
ก้าวที่ 4 คือการผสาน AI กับฐานข้อมูล เช่น PolarDB และ AnalyticDB จุดนี้อาลีบาบาย้ำว่าการใช้ AI ทำ inference ในระดับฐานข้อมูลโดยตรง ช่วยให้เวิร์กโหลดด้าน RAG หรือ generative search มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก ซึ่งกรณีของอาลีบาบา คลาวด์นั้นสามารถ “ฝัง AI ลงในโครงสร้างพื้นฐาน” ไม่ใช่แค่แปะไว้บนผิว
ก้าวที่ 5 คือ AI Doc และ Smart Studio: เครื่องมือ SaaS ทั้งส่วน Smart Studio ที่แปลงข้อความเป็นวิดีโอหรือภาพได้แบบ real-time ซึ่งเป็นความฝันของสายคอนเทนต์และนักการตลาด และส่วน AI Doc ที่จับคู่กับ Energy Expert ล้วนแสดงศักยภาพด้าน ESG และข้อมูลภาคธุรกิจ ทำให้เห็นว่า AI ไม่ได้หยุดแค่แชตบอทหรือภาพสวย ๆ แต่เข้าถึงระดับระบบองค์กรจริง
และก้าวที่ 6 คือการโชว์มูลค่าการลงทุน 53,000 ล้านเหรียญฯ ภายใน 3 ปี แน่นอนว่าตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่อลังการ แต่แสดงถึงเดิมพันระดับโลกของอาลีบาบา คลาวด์ ที่เทหมดหน้าตักเพื่อเป็นผู้นำด้าน AI + Cloud
ทั้งหมดนี้ สะท้อนว่าอาลีบาบาคลาวด์กำลังมุ่งพัฒนา AI ในเชิงลึก คู่กับการรวม AI เข้ากับโครงสร้างพื้นฐาน และการเปิดกว้างให้ทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้แบบ no-code, scalable, และ affordable ทั้งหมดนี้จึงไม่ใช่แค่การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ แต่คือการ “สร้างรากฐานใหม่” ให้กับอุตสาหกรรมคลาวด์ยุค AI.
