'ดีป้า' เผย ดัชนีเชื่อมั่นดิจิทัล Q1/68 ดีดกลับแดนบวก ผู้ประกอบการยังผวาค่าแรง-เทคโนโลยีล้ำรัฐอืด ชี้ไทยต้องเร่งปั้นคน-อัดทุนหนุนสตาร์ทอัพ
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.68 ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล ไตรมาส 1 ปี 2568 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.1 จากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 48.8 สะท้อนความเชื่อมั่นกลับมาอยู่ในแดนบวกอีกครั้ง หลังได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท โครงการ Easy E-Receipt 2.0 การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI ในระดับโลก
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงวิตกต่อปัจจัยลบสำคัญ เช่น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มาตรการกีดกันทางการค้าต่างประเทศ และความสามารถในการปรับตัวรับเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ยังไม่ทั่วถึง ซึ่งฉุดความเชื่อมั่นในบางกลุ่มอุตสาหกรรมให้ยังอยู่ในระดับต่ำ
ผลสำรวจครอบคลุม 5 กลุ่มอุตสาหกรรมย่อย พบว่า 3 กลุ่มที่มีความเชื่อมั่นสูงกว่า 50 ได้แก่ กลุ่มซอฟต์แวร์ 51.5 กลุ่มบริการดิจิทัล 53.5 และกลุ่มโทรคมนาคม 52.0 ขณะที่กลุ่มฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะอยู่ที่ 45.8 และกลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ที่ 46.4 ซึ่งแม้จะต่ำกว่า 50 แต่ยังดีกว่าช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 เล็กน้อย
"ผู้ประกอบการคาดหวังให้ภาครัฐเร่งเติมช่องว่างด้านกำลังคนดิจิทัล หนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในภาคธุรกิจ พร้อมทั้งเปิดโอกาสต่อยอดนวัตกรรม หนุนการลงทุนด้วยแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ และลดอุปสรรคการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว
ด้าน ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น กล่าวว่า แม้ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยจะมีศักยภาพ แต่ยังเผชิญข้อจำกัดหลายด้าน เช่น การเข้าถึงแหล่งทุน ที่ปรึกษาเชิงลึก และการขาดเครือข่ายระดับโลก โดยเฉพาะกลไกของภาครัฐที่ยังไม่คล่องตัวพอ รวมถึงภาคธุรกิจดั้งเดิมที่ยังนำเทคโนโลยีไปใช้ไม่เต็มศักยภาพ ทำให้การเติบโตของสตาร์ทอัพไทยยังไม่ทะลุเพดาน
"โอกาสของไทยอยู่ที่การสร้างระบบนิเวศใหม่ เช่น Venture Building ที่เชื่อมโยงคนมีไอเดียเข้ากับคนมีทักษะดิจิทัล เปิดพื้นที่ทดลองจริง และส่งเสริมความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน หากทุกภาคส่วนขับเคลื่อนร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สตาร์ทอัพไทยจะกลายเป็นพลังสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยีในระยะยาว" ดร.วาริน กล่าว