xs
xsm
sm
md
lg

ดีอีลุยเดือด! อายัด 1.3 ล้านบัญชีม้า-ปิด 33,000 เว็บเถื่อน คุมเข้ม OTT

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ประเสริฐ' นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อายัดบัญชีม้า 1.3 ล้านบัญชี บล็อกเว็บผิดกฎหมาย 33,000 URL คุมเข้ม OTT ป้องกันเนื้อหาผิดกฎหมาย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และภาคเอกชน หารือแนวทางปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ตามนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

นายประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน โดยในเดือน ก.พ.68 มีการจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ 4,505 ราย เพิ่มขึ้น 80.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนนี้เป็นคดีพนันออนไลน์ 2,069 ราย เพิ่มขึ้น 94.45% ขณะที่การจับบัญชีม้าและซิมม้ามีจำนวน 325 ราย เพิ่มขึ้น 35.42%

ด้านการบล็อกเว็บไซต์ผิดกฎหมาย กระทรวงดีอีได้ปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์ไปแล้วกว่า 33,094 URL และเว็บไซต์หลอกลวงอีกกว่า 1,130 URL พร้อมประสานแพลตฟอร์มเพื่อขอปิดกั้นเพิ่มเติมอีกกว่า 28,000 URL

◉ อายัดเกินล้านบัญชีม้า-เข้มธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล

ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานด้านการอายัดบัญชีม้า พบว่าตั้งแต่ต้นปีจนถึง 28 ก.พ.68 ได้มีการอายัดบัญชีไปแล้ว 732,798 บัญชี ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ได้ระงับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 1,335,290 บัญชี นอกจากนี้ ยังมีมาตรการให้ ปปง. เป็นผู้มีอำนาจเพียงรายเดียวในการปลดล็อกบัญชี "ม้าดำ" ส่วนบัญชี "ม้าเทา" ให้เป็นหน้าที่ของ บช.สอท. โดยเปิดทางให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถยื่นขอเปิดบัญชีเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ แต่ต้องเป็นบัญชีที่ไม่สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้

ขณะเดียวกัน ภาครัฐยังจับมือกับ ก.ล.ต. และสมาคมธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เพื่อบูรณาการข้อมูลบัญชีม้าและป้องกันการฟอกเงินผ่านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีการกำหนดแนวทางคัดกรองธุรกรรมที่ต้องสงสัยและการประกาศรายชื่อบัญชีต้องเฝ้าระวัง (HR-03)


◉ บล็อก SMS แนบลิงก์หลอกลวง

ที่ประชุมยังได้พิจารณามาตรการจัดการซิมม้าและซิมบุคคลต่างด้าว โดย กสทช. ได้ตรวจสอบการใช้ซิมที่มีการโทรออกมากกว่า 100 ครั้งต่อวัน และระงับการใช้งานไปแล้วกว่า 233,338 เลขหมาย นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้ชาวต่างชาติที่ลงทะเบียนซิมการ์ดต้องใช้พาสปอร์ต และจำกัดการลงทะเบียนไม่เกิน 3 เลขหมายต่อผู้ให้บริการ 1 ราย พร้อมสั่งการให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมติดตั้งระบบ "Liveness Detection" เพื่อป้องกันการปลอมแปลงตัวตนภายใน 180 วัน

นอกจากนี้ สำนักงาน ปปง. และ กสทช. ได้เดินหน้าลงทะเบียน Sender Name เพื่อป้องกัน SMS หลอกลวง โดยมีการลงทะเบียนไปแล้วกว่า 100,000 รายการ

◉ ตรวจสัญญาณโทรคมนาคมชายแดน-คุมแพลตฟอร์ม OTT

นอกจากการจัดการกับอาชญากรรมออนไลน์โดยตรง ที่ประชุมยังได้หารือมาตรการควบคุมเสาสัญญาณโทรคมนาคมแนวชายแดน เพื่อป้องกันการใช้เครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในการกระทำผิด โดยคาดว่าภายในสิ้นเดือน มี.ค.68 จะสามารถตรวจสอบครอบคลุมทุกพื้นที่ชายแดน

ในส่วนของแพลตฟอร์ม OTT เช่น Netflix, YouTube, Disney+, TikTok และ Spotify ที่อาจถูกใช้เป็นช่องทางหลอกลวงหรือเผยแพร่เนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ที่ประชุมได้มอบหมายให้ กสทช. และ ETDA ศึกษามาตรการกำกับดูแล 5 ด้าน ได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภค การกำกับด้านเนื้อหา การจัดเก็บภาษี การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการควบคุมการแข่งขัน เพื่อให้แพลตฟอร์มต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทยต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย

◉ รัฐบาลเอาจริง ปราบอาชญากรรมออนไลน์ต่อเนื่อง

"รัฐบาลจะดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง ทั้งบัญชีม้า ซิมม้า การอายัดบัญชีธนาคาร และการปิดเว็บผิดกฎหมาย โดยขณะนี้การพิจารณาร่างพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายประเสริฐ กล่าว

หากประชาชนถูกหลอกลวงทางออนไลน์ สามารถแจ้งเบาะแสและขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน AOC 1441 และสายด่วนรัฐบาล 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Line ID: @antifakenewscenter | เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com










กำลังโหลดความคิดเห็น