'ประเสริฐ' คอนเฟิร์ม เศรษฐกิจดิจิทัลปี 68 โต 7.3% คิดเป็น 2.6 เท่า แซงหน้า GDP รวม รัฐเร่งดึงทุน AI-Cloud ปั้นไทยขึ้นแท่น Digital Hub จับตาสงครามการค้า-วิกฤตพลังงานฉุดเกมเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 19 มี.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยในฐานะประธานเปิดงาน Thailand’s Digital Economy and Development 2025 และปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อนโยบายและแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัล 2568 ว่า การคาดการณ์เศรษฐกิจดิจิทัลปี 2568 พบว่าเศรษฐกิจดิจิทัลกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีแนวโน้มขยายตัว 7.3% ซึ่งสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) โดยรวมถึง 2.6 เท่า เมื่อเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ไว้ที่ 2.8%
ด้านการลงทุนภาคดิจิทัล คาดว่าจะขยายตัวถึง 9.9% สูงกว่าการลงทุนโดยรวม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวเพียง 3.6% โดยรัฐบาลภายใต้การบริหารของกระทรวงดีอี เดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ หนึ่งในยุทธศาสตร์หลักคือการดึงดูดการลงทุนใน Cloud Services, Data Centers และเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เพื่อให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้ภาคธุรกิจและแรงงานในประเทศ
"เชื่อว่าหากแผนการดึงดูดการลงทุนเป็นไปตามเป้า เศรษฐกิจดิจิทัลจะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 และมีส่วนสำคัญในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่แข็งแกร่ง รองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระยะยาว" นายประเสริฐ กล่าว
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือคณะกรรมการดีอี กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยปี 2568 คาดว่ามีมูลค่า 4.8 ล้านล้านบาท ขยายตัว 7.3% สูงกว่าการเติบโตของ GDP โดยรวมที่ สศช. คาดการณ์ไว้เพียง 2.8% ส่งผลให้เศรษฐกิจดิจิทัลเป็นภาคเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุดและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
การลงทุนภาคดิจิทัลคาดว่าจะขยายตัว 9.9% โดยการลงทุนภาคเอกชนโตสูงถึง 10.3% จากการดึงดูดเงินทุนใน Cloud Services, Data Centers และ AI ขณะที่ภาครัฐคาดว่าจะขยายตัว 5.0% จากนโยบาย Cloud First Policy การเร่งพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
การบริโภคภาคเอกชนด้านดิจิทัลปี 2568 คาดว่าจะเติบโต 7.6% สูงกว่าการบริโภคโดยรวมของประเทศที่ขยายตัวเพียง 3.3% ปัจจัยหนุนหลักมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ แพลตฟอร์มดิจิทัลมากขึ้น ทั้งการซื้อสินค้าออนไลน์ การใช้บริการการเงินดิจิทัล และแพลตฟอร์มท่องเที่ยว ส่วนการบริโภคภาครัฐด้านเศรษฐกิจดิจิทัลคาดว่าจะขยายตัว 4.3% จากการพัฒนาระบบบริหารจัดการผ่านช่องทางดิจิทัล
ด้านการค้าต่างประเทศ การส่งออกสินค้าและบริการดิจิทัลปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 5.5% จากความต้องการสินค้า AI เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงภาคธุรกิจที่ปรับตัวเข้าสู่ระบบดิจิทัล ขณะที่การนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรองรับการผลิตในประเทศขยายตัว 5.3%
ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลในปี 2568 มาจากการลงทุนจากต่างประเทศใน Cloud & Data Centers นโยบายส่งเสริมไทยเป็น Digital Hub และกระแสการใช้ AI ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบ ทั้งสงครามการค้าโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ข้อจำกัดด้านพลังงานสะอาด และการแข่งขันดึงดูดการลงทุนดิจิทัลในภูมิภาค
"มั่นใจว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI, Cloud Services และ Data Centers ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ และผลักดันไทยสู่การเป็น ศูนย์กลางเทคโนโลยีของอาเซียน" นายเวทางค์ กล่าว