บริษัท โอ เอส ดี จำกัด (OSD) ประกาศพร้อมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับระบบเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ลุยดันแพลตฟอร์ม ATOM ทำงานเรียลไทม์ทั้งวิเคราะห์วิดีโอ จดจำใบหน้า ติดตามวัตถุ และอ่านป้ายทะเบียนรถเพื่อเมืองปลอดภัย วางแผนส่งออกโซลูชัน Smart City ในอนาคตอันใกล้ ตั้งเป้าเติบโต 50% ในปี 2568
น ส.อรสา ขาวงาม กรรมการบริหาร บริษัท โอ เอส ดี จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2568 OSD ตั้งเป้าหมายขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตเนื่องจากการเห็นความต้องการบริการด้าน IT จากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ คาดการณ์รายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 50% จากปีที่ผ่านมา พร้อมวางโรดแมปในการขยายพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วยการพัฒนาบริการและโซลูชันใหม่จาก 3 แนวทาง
"1 ใน 3 แนวทางของโรดแมปปี 68 คือการพัฒนาบริการผ่านบริษัทในกลุ่ม OSD คือ ATOM (AI Vision & IoT Smart Platform) แพลตฟอร์ม AI สำหรับ Vision และ IoT ดีไวซ์ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เอ ดอท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI ในกลุ่ม OSD ระบบ VoP (Voice of People) หรือระบบรับฟังเสียงประชาชน ที่พัฒนาโดยบริษัท เลกซ์เทค คอนซัลแทนท์ จำกัด หรือ LEXTECH บริษัทในกลุ่ม OSD"
OSD ถือเป็นธุรกิจให้บริการดูแลจัดการระบบไอทีขององค์กรทั้งองค์กรธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐ ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ เครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มากว่า 20 ปี ด้วยโซลูชันครอบคลุมตั้งแต่การบริหารคอลเซ็นเตอร์ การบริหารประสบการณ์ลูกค้า การบริหารการติดตามหนี้ การบริหารงานบริการ และโซลูชันสมาร์ตซิตี
ทั้งนี้ OSD ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภท 1 และประเภท 3 รวมถึงใบอนุญาตผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ประเภท 1 ทำให้บริษัทมีศักยภาพในการพัฒนาระบบและให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพให้ลูกค้า โดยเฉพาะใบอนุญาตประเภท 3 เป็นแบบมีโครงข่ายเป็นของตัวเอง สามารถให้บริการภายใต้โครงข่ายของ OSD และเชื่อมต่อกับโครงข่ายของผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการภายใต้การให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานในรูปแบบของโครงข่าย SIP ที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูง เพื่อช่วยให้องค์กรขนาดใหญ่ที่มีการใช้งานและต้องการความปลอดภัยสูงสามารถใช้งานบนโครงข่าย SIP ดังกล่าวได้
สำหรับแนวทางที่ 2 ในโรดแมปปี 68 คือบริษัทมุ่งจับมือกับพันธมิตร เช่น AWS, Zoom, Huawei, Sunline และ Nice เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันใหม่ๆ ที่ตอบความต้องการต่างๆ ให้องค์กร เช่น นำแพลตฟอร์มที่ OSD มีอยู่อย่าง VOC ขึ้น Marketplace ของ AWS
แนวทางที่ 3 คือทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์เฉพาะแต่ละองค์กร เช่น ทำงานร่วมกับธนาคารออมสินในการพัฒนาระบบ DCMS หรือระบบบริหารหนี้ครบวงจร และต่อยอดฟีเจอร์ใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI มาใช้ในระบบตามความต้องการของธุรกิจ
นอกจากบริการให้องค์กรธุรกิจเอกชนแล้ว OSD ระบุว่าจะมุ่งให้บริการ IT โซลูชันกับหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ขานรับกับนโยบายขับเคลื่อนเมืองสู่สมาร์ตซิตี (Smart City) โดยเฉพาะระบบ VoP (Voice of People) หรือระบบรับฟังเสียงประชาชน ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถรวบรวม วิเคราะห์ และตอบสนองต่อความคิดเห็นของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาได้นำระบบดังกล่าวไปทำงานร่วมกับเทศบาลนครนครปฐม เทศบาลนครภูเก็ต และเทศบาลนครยะลา เพื่อยกระดับการบริหารจัดการเมืองให้โปร่งใส รวดเร็ว และเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนและเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดจัดงาน OSD E-Connect 2025 ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่อให้องค์กรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด มีโอกาสสัมผัสและทดลองใช้เทคโนโลยีที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ขององค์กร โดยจะมีการสาธิตโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อเสริมขีดความสามารถของธุรกิจและเมืองอัจฉริยะ