อาลีบาบา คลาวด์ เผยผลสำรวจตลาดไอทีในเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง พบข่าวดีธุรกิจส่วนใหญ่ทึ่งในศักยภาพของ AI ที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน แต่ในขณะเดียวกัน ยังมีความกังวลเรื่องการใช้พลังงานของเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วย
เซลิน่า หยวน ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่าการตอบแบบสำรวจของผู้มีอำนาจตัดสินใจ 1,300 รายใน 13 ตลาด ทำให้รายงานการสำรวจนี้ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับทัศนคติ และความท้าทายในการใช้ AI และคลาวด์คอมพิวติ้งเพื่อความยั่งยืนที่ธุรกิจเผชิญในปัจจุบัน
"อาลีบาบา คลาวด์ มุ่งมั่นสนับสนุนการเดินบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนของธุรกิจต่างๆ ด้วยโซลูชันที่ปรับขนาดการทำงานได้และยั่งยืน AI จะกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้เหมาะสม ด้วยคำมั่นของเราที่จะใช้พลังงานสะอาด 100% ภายในปี 2573 และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกของเรา รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถให้ Generative AI เช่น ประสิทธิภาพของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)"
จากรายงาน "แนวโน้มและดัชนีความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีประจำปี 2024" ที่อาลีบาบา คลาวด์เพิ่งเปิดเผย พบว่าองค์กรมากกว่าหนึ่งในสอง หรือประมาณ 59% ยอมรับว่ายังมีช่องว่างของความเข้าใจว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนได้อย่างไร
ที่น่าสนใจคือ ตลาดเอเชียเป็นตลาดนำในการใช้ AI คลาวด์คอมพิวติ้ง และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน โดยผลสำรวจพบว่าประเทศไทยอยู่ในลำดับต้นๆ ในการใช้ AI และคลาวด์คอมพิวติ้งเลยทีเดียว
จากผลสำรวจธุรกิจใน 13 ตลาดทั่วเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง พบว่า 76% ของธุรกิจตระหนักถึงศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึง AI และคลาวด์ที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม 61% ยังกังวลว่าการที่เทคโนโลยีเหล่านี้ใช้พลังงานมาก จะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย
เมื่อดูตามภูมิภาค ตลาดเกิดใหม่ในเอเชียนำหน้าด้วย 83% ตามด้วยตลาดตะวันออกกลาง 78% ยุโรป 74% และตลาดที่พัฒนาแล้วในเอเชีย 72%
ส่วนในระดับประเทศ ฟิลิปปินส์นำเป็นอันดับ 1 ด้วย 91% ตามด้วยสิงคโปร์ 84% และไทยกับอินโดนีเซียเท่ากันที่ 81% และที่น่าภูมิใจคือ 82% ของธุรกิจในไทยได้กำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืนไว้แล้ว ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 80%
แต่ในขณะเดียวกัน ไทยก็ติดอันดับ 3 ที่ยังมีช่องว่างความเข้าใจว่าเทคโนโลยีจะช่วยด้านความยั่งยืนได้อย่างไร ที่ 70% รองจากสิงคโปร์ 83% และฮ่องกง 75%
ประเด็นที่น่าสนใจคือ 61% ของผู้ตอบแบบสำรวจกังวลว่าเทคโนโลยีดิจิทัลใช้พลังงานมาก โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่กังวลถึง 85% ฟิลิปปินส์ 77% ฮ่องกง 75% และไทย 65%
ในส่วนของอาลีบาบา คลาวด์เอง เซลิน่า หยวน ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นสนับสนุนธุรกิจบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนด้วยโซลูชันที่ปรับขนาดได้และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายใช้พลังงานสะอาด 100% ภายในปี 2573 พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลก
ผลงานที่ผ่านมาของอาลีบาบา คลาวด์ในด้านนี้ค่อนข้างน่าประทับใจ จากข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 การใช้พลังงานเฉลี่ยของดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัทมีประสิทธิภาพดีขึ้นเป็น 1.200 จาก 1.215 ในปีงบประมาณก่อนหน้า โดย 56% ของการใช้ไฟฟ้ามาจากแหล่งพลังงานสะอาด และโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยให้ลูกค้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 9.884 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ อาลีบาบา คลาวด์ยังเป็นผู้นำในการเปิดโอเพ่นซอร์สโมเดลภาษาขนาดใหญ่ตระกูล Qwen เพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดเข้าถึง AI ขั้นสูงได้ด้วยค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดโมเดลอนุพันธ์มากกว่า 100,000 โมเดลทั่วโลก
