'NT' ดิ้น! ขอใช้คลื่น 3500 MHz ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรฟรี อ้างการคืนคลื่นความถี่ที่ถือครองอยู่ตามกำหนด กระทบรายได้ ประธาน กสทช. ปฏิเสธชัด “ทุกย่านความถี่ต้องประมูล” ไร้ข้อยกเว้น
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ได้เข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการจัดสรรคลื่นความถี่ หลังจากที่ กสทช. ได้จัดทำแผนบริหารจัดการคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลในช่วงปี 2567-2571 และมีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 ที่ผ่านมา
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้มีประเด็นสำคัญคือ NT แสดงความกังวลเกี่ยวกับคลื่นความถี่ 4 ย่านที่ถือครองอยู่และต้องส่งคืน กสทช. ภายในวันที่ 3 ส.ค.68 ได้แก่
• 850 MHz จำนวน 30 MHz (2x15 MHz)
• 1500 MHz จำนวน 90 MHz
• 2100 MHz จำนวน 30 MHz (2x15 MHz)
• 2300 MHz จำนวน 70 MHz
NT จึงเสนอขอใช้คลื่น 3500 MHz จำนวน 300 MHz ฟรีเป็นการชั่วคราว ในช่วงที่ยังไม่มีการจัดสรรใหม่ เนื่องจาก กสทช. กำลังอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับการประมูลคลื่น 6 ย่าน ได้แก่ 850, 1500, 1800, 2100, 2300 MHz และ 26 GHz ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.พ.68 นี้ ทั้งนี้ NT ให้เหตุผลว่า หากต้องคืนคลื่นความถี่ทั้งหมดตามกำหนด จะทำให้ขาดต้นทุนหลักในการหารายได้จากการให้บริการโทรศัพท์มือถือ
"การขอใช้ฟรีเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกย่านความถี่ต้องผ่านกระบวนการประมูล" ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คลื่นความถี่ 3500 MHz ซึ่งมีอยู่ 400 MHz เป็นที่ถกเถียง หลังจาก กสทช. วางแผนจัดสรรใหม่ โดยปัจจุบันถูกใช้งานในธุรกิจดาวเทียมเคเบิล (จานดำ) และเมื่อกันคลื่นรบกวน จะเหลือพื้นที่จัดสรรได้เพียง 300 MHz
ขณะเดียวกัน สมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิทัล (ประเทศไทย) ได้เรียกร้องให้ กสทช. ชี้แจงแนวทางจัดสรรคลื่น ก่อนที่ใบอนุญาตออกอากาศจะหมดอายุในปี 2572 โดยต้องการใช้คลื่นนี้ต่อไป ไม่ต้องการให้ถูกนำไปใช้ในกิจการโทรคมนาคมหรือดาวเทียม ขณะที่ NT ก็ยื่นข้อเสนอขอใช้ฟรีในช่วงที่ยังไม่มีการประมูล
อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องดังกล่าวติดเงื่อนไขกฎหมาย เนื่องจาก พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ.2553 กำหนดให้การจัดสรรคลื่นความถี่ต้องผ่านการประมูลเท่านั้น หากต้องการยกเลิกการประมูล ต้องแก้กฎหมาย ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญที่ กสทช. ต้องพิจารณาว่าจะสามารถใช้วิธีการอื่นได้หรือไม่
