ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมมาตรการ กสทช. ตัดการสื่อสารแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เดินหน้ารื้อถอนเสาอีก 10 แห่ง จ.ตาก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หลังถอดอุปกรณ์รับส่งประจำตู้สัญญาณตามเสาแนวพรมแดน 7 จังหวัด 11 อำเภอเสร็จสิ้นเมื่อมิถุนายนปีที่แล้ว เผยลุยเดินหน้านำ “True CyberSafe” สกัดลิงก์และ URL เสี่ยงภัยพร้อมเตือนลูกค้าฉุกคิดก่อนหมดตัว พร้อมใช้งานแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายแก่ลูกค้าทรูและดีแทค
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. และรักษาการเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณชายแดนไทย-เพื่อนบ้านว่า “ทีมงานจาก กสทช. ส่วนกลางและภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคเหนือ ได้ลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือในพื้นที่บ้านวังแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองชเวโก๊กโก่ของเมียนมา พบว่ามีความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันสัญญาณโทรคมนาคมข้ามพรมแดน
จึงได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายดำเนินการรื้อถอนเสาสัญญาณรวมทั้งหมด 24 ต้น จากจำนวนรวมของผู้ให้บริการทุกรายที่ตั้งอยู่ในรัศมี 50 เมตรจากแนวชายแดน ครอบคลุมพื้นที่สามอำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อำเภอแม่ระมาด แม่สอด และพบพระ โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มเติมจากมาตรการเดิมที่เคยมีการระงับบริการโทรคมนาคมในพื้นที่เสี่ยงตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เพื่อป้องกันการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือในการก่ออาชญากรรมข้ามแดน โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านแก๊งคอลเซ็นเตอร์
โดยที่ผ่านมา ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ดำเนินการตามมาตรการของสำนักงาน กสทช. ด้วยการระงับสัญญาณ (Switch off) สายอากาศที่มีทิศทางหันออกจากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และดำเนินการรื้อถอนหรือปรับทิศทางตามแนวชายแดนไทย-เพื่อนบ้าน ในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด 11 อำเภอ ได้แก่
ตาก: อำเภอแม่สอด แม่ระมาด และพบพระ
เชียงราย: อำเภอแม่สาย เชียงของ และเชียงแสน
สระแก้ว: อำเภออรัญประเทศ
จันทบุรี: อำเภอโป่งน้ำร้อน
ระนอง: อำเภอเมือง
บุรีรัมย์: อำเภอบ้านกรวด
สุรินทร์: อำเภอกาบเชิง
การดำเนินการนี้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2567 มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการลอบใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือของไทยในการก่ออาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง ทรู คอร์ปอเรชั่น และ สำนักงาน กสทช. ในการยกระดับความปลอดภัยให้กับประชาชน
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่นปฏิบัติตามมาตรการ กสทช. ในการควบคุมเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือมาโดยตลอด รวมทั้งล่าสุดทีบริเวณชายแดนพื้นที่สามอำเภอของจังหวัดตาก ได้แก่ อ.พบพระ อ.แม่สอด และ อ.แม่ระมาด ตามแนวชายแดน โดยทาง กสทช. ตรวจสอบแจ้งมาว่ามีจำนวนเสาของทรู 10 แห่ง จาก 24 แห่ง ที่ต้องดำเนินการรื้อถอน ซึ่งที่ผ่านมาเสาทรู และดีแทคดังกล่าวที่อยู่ตามแนวชายแดน ได้ตัดสายสื่อสารและระงับสัญญาณเป็นที่เรียบร้อย พร้อมทั้งปรับทิศทางการส่งสัญญาณให้อยู่ในเขตชุมชน จ.ตาก
ทั้งนี้ กสทช. กำหนดให้รื้อถอนเสา จ. ตากที่อยู่ในรัศมี 50 เมตรจากแนวชายแดนทั้งหมด ส่วนเสาที่อยู่ในรัศมี 200 เมตรต้องปรับลดกำลังส่งและจำกัดความสูงไม่เกิน 15 เมตร ขณะที่เสาในรัศมี 3.5 กิโลเมตรต้องลดกำลังส่งและมีความสูงไม่เกิน 30 เมตร
เมื่อดำเนินการรื้อถอนเสร็จสิ้น ทางทีมทรู คอร์ปอเรชั่นจะเข้าสำรวจสัญญาณในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อเช็กสัญญาณมือถือและพูดคุยกับชุมชน และจะวางแผนติดตั้งเสาสัญญาณขนาดเล็ก หรือ Small Cell สำหรับกรณีถ้าสัญญาณในชุมชนลดลง เพื่อทดแทนบริการ และคงประสิทธิภาพและคุณภาพเดิมโดยครอบคลุมชุมชนของไทย
“นอกจากความร่วมมือกับ กสทช. ในการรื้อถอนเสาแล้ว เรายังได้พัฒนาบริการ "ทรูไซเบอร์เซฟ" (True CyberSafe) เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์จากมิจฉาชีพแก่ผู้ใช้บริการ โดยลูกค้าทรู-ดีแทคมั่นใจว่าใช้มือถือจะได้รับการปกป้องทันทีแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องลงทะเบียน ไม่ต้องดาวน์โหลดแอป ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ปกป้องการเข้าถึง ลิงก์/URL อันตราย จาก SMS หรือบราวเซอร์ หรือเมื่อมีการเข้าถึงเว็บไซต์ที่อาจเป็นอันตรายบนเว็บบราวเซอร์ของลูกค้าทรูออนไลน์” นายจักรกฤษณ์ กล่าวในที่สุด