ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์ม OTT (Over-the-Top) ได้เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมสื่อทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย บริการเหล่านี้ เช่น Netflix, YouTube, Disney+, True ID, AIS Play, iQIYI, Viu ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการรับชมของผู้บริโภคจากโทรทัศน์แบบดั้งเดิม ไปสู่แพลตฟอร์มที่สามารถรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา
สำหรับผู้บริโภค OTT คือ อิสรภาพของการรับชม แต่สำหรับอุตสาหกรรมสื่อ โดยเฉพาะผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลและสื่อในประเทศ OTT กลับเป็นคลื่นแห่งความท้าทาย ที่ทำให้โครงสร้างรายได้จากโฆษณาและค่าสมาชิกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
คำถามสำคัญคือ OTT ไทยควรได้รับการสนับสนุนอย่างไร? OTT ต่างชาติควรถูกกำกับดูแลหรือไม่? และภาครัฐควรดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้เล่นในตลาด?
• OTT ไทย vs OTT ต่างชาติ : ใครได้เปรียบ?
ปัจจุบัน OTT ไทย เช่น True ID, AIS Play, LINE TV (ก่อนปิดตัวลง) Monomax, 3Plus, BUGABOO.TV ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก OTT ระดับโลกที่มีทั้งเงินทุนมหาศาล เนื้อหาระดับสากล และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า OTT ต่างชาติไม่เพียงแต่ดึงผู้ชมจากแพลตฟอร์มไทย แต่ยังดึงรายได้จากโฆษณาและค่าสมาชิกออกนอกประเทศ
สิ่งที่ทำให้ OTT ต่างชาติได้เปรียบ ได้แก่ ขนาดตลาดและงบประมาณ: Netflix, Disney+ และ YouTube ลงทุนเป็นพันล้านดอลลาร์ในคอนเทนต์ระดับโลก การไร้ข้อจำกัดด้านกฎหมาย: OTT ต่างชาติยังไม่มีภาระทางกฎหมายและกฎระเบียบในประเทศไทยเหมือนผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัล รูปแบบธุรกิจที่ยืดหยุ่น: จากค่าสมาชิก รายได้จากโฆษณา ไปจนถึงโมเดลแบบ Hybrid (ทั้งฟรีและจ่ายเงิน)
ในทางกลับกัน OTT ไทย แม้จะมีข้อได้เปรียบในด้านความเข้าใจตลาดท้องถิ่น คอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไทย แต่ยังคงเผชิญอุปสรรค เช่น ต้นทุนการผลิตสูง การแข่งขันด้านลิขสิทธิ์ และข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี
• การกำกับดูแล OTT ไทย / ต่างชาติ: จุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมสื่อไทย
แม้ว่า OTT จะเป็นช่องทางสื่อสารใหม่ที่ได้รับความนิยม แต่ภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล เช่น กสทช. ยังไม่มีนโยบายหรือกฎหมายที่ชัดเจนในการกำกับดูแล OTT เทียบเท่ากับโทรทัศน์ดิจิทัลและวิทยุ
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่ชัดเจนของกฎระเบียบ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่าง OTT ไทย และ OTT ต่างประเทศ OTT ไทยที่เป็นแพลตฟอร์มของบริษัทโทรคมนาคมหรือโทรทัศน์ดิจิทัล อาจถูกกำกับดูแลมากกว่า OTT ต่างชาติ ตัวอย่างเช่น True ID ถูกตรวจสอบการโฆษณา ในขณะที่ Netflix และ YouTube ยังไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับโฆษณาแบบเดียวกัน
ปัญหาการเก็บภาษี และการควบคุมเนื้อหา OTT ต่างประเทศสามารถให้บริการในไทยได้โดยไม่ต้องจดทะเบียนหรือเสียภาษีในอัตราเดียวกับบริษัทไทย และยังมีการควบคุมเนื้อหา เช่น การกำหนดอายุผู้ชม การคุ้มครองเด็กและเยาวชน และการเผยแพร่เนื้อหาที่ขัดต่อศีลธรรม อาจไม่สามารถบังคับใช้ได้กับ OTT ต่างชาติ
ทั้งยังสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรทัศน์ดั้งเดิม ผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ต้องแข่งขันกับ OTT ที่ไม่ถูกกำกับดูแลแบบเดียวกัน ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในตลาด
ก้าวต่อไปจะต้องกำหนดแนวทางการกำกับดูแลที่เหมาะสมเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุน OTT ไทย และการควบคุม OTT ต่างชาติอย่างเป็นธรรม
โดยรัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลควรพิจารณาแนวทางต่อไปนี้
1.กำหนดมาตรฐานการกำกับดูแล OTT อย่างเป็นธรรม โดยกำหนดให้ OTT ต่างประเทศที่มีรายได้ในไทยต้องจดทะเบียนและเสียภาษีในอัตราเดียวกับ OTT ไทย และต้องมีการควบคุมโฆษณาบน OTT ต่างประเทศในลักษณะเดียวกับที่ใช้กับ OTT ไทย และโทรทัศน์ดิจิทัล
2.สร้างระบบสนับสนุน OTT ไทยให้แข่งขันได้ ได้แก่ การออกนโยบายลดภาษี หรือเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อ สำหรับผู้ผลิตเนื้อหาไทยที่เผยแพร่ผ่าน OTT ไทย สนับสนุนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งไทย ให้เข้าถึงตลาดในระดับสากล เช่น การจับมือกับ OTT ต่างประเทศเพื่อขยายฐานผู้ชม
3.กำหนดกฎเกณฑ์การคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่ การกำหนดมาตรฐานสำหรับการจัดประเภทเนื้อหา และการป้องกันเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชน กำหนดมาตรฐานสำหรับโฆษณาและการใช้ข้อมูลผู้บริโภคบนแพลตฟอร์ม OTT
4.ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมสื่อไทย โดยการผลักดันให้ OTT ต่างประเทศลงทุนในอุตสาหกรรมสื่อไทย เช่น การสนับสนุนการผลิตเนื้อหาไทยที่ออกอากาศบนแพลตฟอร์มของพวกเขา
ท้ายสุดนี้จะเห็นได้ว่าการกำกับดูแล OTT ต้องสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความเป็นธรรม เพราะ OTT ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมสื่อ และสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคและธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ความไม่ชัดเจนในการกำกับดูแลทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมระหว่าง OTT ไทยและ OTT ต่างชาติ หากประเทศไทยต้องการให้ OTT ไทยเติบโตและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ กฎระเบียบที่เป็นธรรมและนโยบายที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อไทยต้องถูกกำหนดขึ้นอย่างเร่งด่วน OTT ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นโอกาสสำหรับสื่อไทย หากเรามีกฎเกณฑ์ที่เหมาะสมและการสนับสนุนที่เพียงพอ