xs
xsm
sm
md
lg

ความเหลื่อมล้ำระหว่าง OTT ไทยและต่างประเทศ คำถามถึงก้าวต่อไปของการกำกับดูแลที่เป็นธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อ OTT ไทยถูกกำกับเข้ม แต่ OTT ต่างชาติไร้ข้อจำกัด สนามแข่งขันที่ไม่เท่าเทียม? ในขณะที่แพลตฟอร์ม OTT ระดับโลก อย่าง Netflix, YouTube, Disney+ และ Amazon Prime สามารถดำเนินธุรกิจในไทยได้โดยแทบไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่ OTT ไทย เช่น True ID, AIS Play และแพลตฟอร์มสื่อไทยอื่นๆ กลับต้องเผชิญกับกฎระเบียบที่เข้มงวดจาก กสทช.

คำถามสำคัญคือ ทำไม OTT ไทยจึงถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ในขณะที่ OTT ต่างชาติแทบไม่ได้รับผลกระทบ? และเหตุใด กรรมการ กสทช.บางคนถึงเลือกใช้มาตรการ “ตลบหลัง” โดยการควบคุม True ID ผ่านทางผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัล แทนที่จะออกกฎระเบียบที่ครอบคลุม OTT ทั้งหมดอย่างเป็นธรรม?

• True ID : เหยื่อของความไม่เท่าเทียมในการกำกับดูแล?

กรณีของ True ID เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงความลักลั่นของการกำกับดูแล OTT ไทย

1.การคุม OTT ไทย โดยการควบคุมผู้ผลิตเนื้อหาทางอ้อม แทนที่ กสทช. จะออกกฎระเบียบที่ชัดเจนสำหรับ OTT ทุกแพลตฟอร์ม (ทั้งไทยและต่างชาติ) กรรมการบางคนกลับเลือกใช้วิธีส่งหนังสือแจ้งเตือนผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัลที่เผยแพร่ผ่าน True ID ถือเป็นการกดดัน True ID ทางอ้อม ผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ (เช่น ช่องทีวีที่นำคอนเทนต์ไปออกอากาศบนแพลตฟอร์ม True ID) ทำให้เกิดคำถามว่า เป็นการกำกับดูแลอย่างเป็นกลาง หรือเป็นการจงใจควบคุมแพลตฟอร์ม OTT ไทยรายใหญ่โดยอ้อมกันแน่?

2.คำถามเรื่อง “โฆษณาบน True ID” ข้อกล่าวหาสำคัญคือ True ID มีโฆษณาบนแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจกระทบรายได้ของผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับของ กสทช.

แต่ปัญหาคือ OTT ต่างชาติ เช่น YouTube ก็มีโฆษณา และดึงรายได้จากโฆษณาในไทยออกนอกประเทศ โดยไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเดียวกับ OTT ไทย

หาก True ID ถูกบีบให้ลดโฆษณาหรือเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ ทำไม YouTube หรือ Facebook Watch ที่มีโฆษณาในไทยจึงไม่ถูกกำกับดูแลในลักษณะเดียวกัน?


3.“ตลบหลัง” OTT ไทย: การสร้างภาระให้ผู้เล่นในประเทศ แต่ปล่อยผู้เล่นข้ามชาติเป็นอิสระ หากเป้าหมายของ กสทช. คือ การกำกับดูแล OTT อย่างเป็นธรรม ทำไมจึงมุ่งเป้าไปที่ True ID ซึ่งเป็น OTT ไทย แทนที่จะออกนโยบายที่กำกับดูแลทั้ง OTT ไทยและต่างชาติให้เท่าเทียมกัน? การออกหนังสือแจ้งเตือนถึงช่องทีวีดิจิทัลที่ออกอากาศผ่าน True ID เท่ากับเป็นการบีบให้แพลตฟอร์ม OTT ไทยต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่แพลตฟอร์มต่างชาติไม่ต้องเจอ

ประเด็นความเหลื่อมล้ำระหว่าง OTT ไทยและต่างชาติที่ต้องเร่งแก้ไข มีด้วยกัน 5 ประการ

1.OTT ไทยถูกบีบด้วยภาษีและกฎระเบียบ แต่ OTT ต่างชาติยังไร้ข้อบังคับ OTT ไทยต้องจ่ายภาษีนิติบุคคล 20% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ในขณะที่ OTT ต่างชาติ เพิ่งเริ่มเสียภาษี E-Service แต่ยังไม่มีภาระทางภาษีเท่ากัน รายได้จากโฆษณาของ OTT ต่างชาติไหลออกนอกประเทศ โดยไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด

2.การควบคุมโฆษณา: ทำไม True ID ต้องถูกบังคับ แต่ YouTube ไม่โดน? โดยปรากฏว่า YouTube, Facebook Watch สามารถ ขายโฆษณาให้ตลาดไทยได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาและเนื้อหา ในขณะที่ OTT ไทย เช่น True ID ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ กสทช. คือไม่อนุญาตให้มีโฆษณา

3.การควบคุมเนื้อหา: OTT ไทยต้องทำตาม กสทช. แต่ OTT ต่างชาติไม่ต้อง OTT ไทยต้องปฏิบัติตามกฎเซ็นเซอร์และการจัดระดับเนื้อหา แต่ Netflix และ YouTube สามารถเผยแพร่เนื้อหาที่ไทยมองว่าอ่อนไหวได้โดยไม่มีข้อจำกัดเดียวกัน ทำให้ OTT ต่างชาติได้เปรียบในแง่ของความหลากหลายของเนื้อหา

4.การเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน : OTT ไทยถูกควบคุมมากกว่า OTT ไทยต้องเจรจากับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และค่ายมือถือในการให้บริการ OTT ต่างชาติสามารถเข้าถึงตลาดไทยโดยไม่มีข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน

5.การลงทุนในสื่อไทย : ทำไม OTT ต่างชาติไม่ถูกบังคับให้สนับสนุนอุตสาหกรรมไทย? OTT ไทยต้องลงทุนในคอนเทนต์ไทย แต่ OTT ต่างชาติสามารถใช้เนื้อหาระดับโลกโดยไม่ต้องลงทุนมากในไทย

• ก้าวต่อไป: กสทช. ควรปรับแนวทางกำกับดูแลอย่างไร?

เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในตลาด OTT และป้องกันการเลือกปฏิบัติระหว่าง OTT ไทยและต่างประเทศ รัฐควรพิจารณาแนวทางต่อไปนี้

1.กำกับดูแล OTT ต่างชาติในมาตรฐานเดียวกับ OTT ไทย OTT ต่างชาติที่ให้บริการในไทยต้องจดทะเบียนและเสียภาษีในอัตราเดียวกับ OTT ไทย

บังคับใช้กฎโฆษณาและการคุ้มครองผู้บริโภค กับ OTT ต่างชาติ เช่นเดียวกับที่ใช้กับ True ID และ AIS Play

2.หยุดการกำกับดูแลแบบ “ตลบหลัง” และเลือกปฏิบัติ ควรออกกฎระเบียบที่ชัดเจนและเป็นกลางต่อ OTT ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ใช่ใช้มาตรการทางอ้อมเพื่อควบคุม OTT ไทยรายใดรายหนึ่ง

3.สนับสนุน OTT ไทยให้แข่งขันได้ ลดภาระภาษีสำหรับ OTT ไทย หรือจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการผลิตคอนเทนต์ไทย ส่งเสริมแพลตฟอร์ม OTT ไทยให้ขยายตลาดไปต่างประเทศ

4.บังคับให้ OTT ต่างชาติลงทุนในอุตสาหกรรมสื่อไทย กำหนดให้แพลตฟอร์มต่างชาติที่ทำรายได้ในไทยต้องลงทุนในคอนเทนต์ไทย หรือสนับสนุนผู้ผลิตสื่อไทย

บทสรุปของเรื่องนี้อยู่ที่การกำกับดูแลที่เป็นธรรมต้องเป็นเป้าหมายหลัก OTT ไทยไม่ควรถูกกำกับดูแลอย่างเข้มงวดเพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ OTT ต่างชาติยังคงได้เปรียบจากความไร้กฎระเบียบ การออกมาตรการ “ตลบหลัง” OTT ไทย โดยผ่านทางผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล เป็นแนวทางที่ขัดกับหลักการกำกับดูแลที่เป็นธรรม กสทช. ควรออกกฎระเบียบที่โปร่งใส ครอบคลุม OTT ทุกแพลตฟอร์มอย่างเท่าเทียม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคและอุตสาหกรรมสื่อไทยในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น