Meta ประกาศเปิดตัวเครื่องมือช่วยผู้ลงโฆษณา พร้อมเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้แอปในเครือ 3.3 พันล้านคนต่อวัน Threads มีผู้ใช้งานมากกว่า 320 ล้านคน ขณะที่ยอดการรับชม Reels เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
นิโคลา เมนเดลซัห์น ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจระดับโลกของ Meta ให้ข้อมูลว่า ณ สิ้นปี พ.ศ.2567 มีจำนวนผู้ใช้งานแอปภายในเครือของ Meta อย่างน้อยหนึ่งแอปเป็นจำนวน 3.3 พันล้านคนต่อวัน โดยจำนวนผู้ใช้งานประจำวันของ Facebook, Instagram และ WhatsApp ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ยังพบว่าเครื่องมือโฆษณาที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Meta สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนโฆษณาสูงกว่า 4 เท่าให้แบรนด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
นอกจากนี้ แบรนด์และผู้ลงโฆษณาบน Meta เกือบทั้งหมดกำลังใช้งานเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ Meta อย่างน้อยหนึ่งเครื่องมือ และการใช้งานแคมเปญ Advantage+ shopping ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้เติบโตถึง 70% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YOY) ในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ.2567
ปัจจุบันมีแบรนด์และผู้ลงโฆษณามากกว่า 4 ล้านรายที่ใช้เครื่องมือสร้างครีเอทีฟโฆษณาด้วย Generative AI ของ Meta อย่างน้อยหนึ่งเครื่องมือ ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านรายเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว และยังเห็นแนวโน้มการใช้งานเครื่องมือโฆษณาด้วย Generative AI ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง โดย 30% ของลูกค้ารายใหญ่ที่สุดใช้งานฟีเจอร์สร้างพื้นหลัง (Background Generation) ในปัจจุบัน
ในขณะนี้ Threads ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีผู้ใช้งานรายเดือนมากกว่า 320 ล้านคน และมีผู้สมัครใช้งานใหม่มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน มีการคาดการณ์ว่า Threads จะก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มสนทนาชั้นนำและมีผู้ใช้งานถึง 1 พันล้านคนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ส่วนสถิติการรับชมวิดีโอในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ.2567 พบว่า เวลาในการรับชมวิดีโอทั่วโลกบน Instagram เติบโตในระดับสองหลัก (double digit percentages) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย Reels มีการแชร์ต่อมากกว่า 4.5 พันล้านครั้งต่อวัน
โดยภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ Meta จะเริ่มทยอยปล่อยเครื่องมือและประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้แบรนด์ ธุรกิจและผู้ลงโฆษณาได้ทดลองใช้ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น
Opportunity Score ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้ในระดับสูงสุด ผ่านเครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า Opportunity Score ซึ่งแสดงออกมาในรูปแบบของ “คะแนน” โดยเครื่องมือนี้จะช่วยระบุโอกาสและให้คำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณานั้นใน Ads Manager แบบทันที (real-time)
Meta กำลังทดสอบการตั้งค่าแคมเปญ Meta Advantage+ รูปแบบใหม่ เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้วย AI (AI-optimization) ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ลงโฆษณายังสามารถปรับแต่งด้วยตนเองได้ตามต้องการ ผู้ใช้งานจะเห็นป้ายกำกับการเปิดและปิด Advantage+ แบบใหม่
นิโคลา เมนเดลซัห์น ย้ำว่า AI มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมวิธีการที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ในการทำโฆษณา ด้วยเครื่องมือใหม่เหล่านี้ Meta กำลังเปิดโอกาสให้ผู้ลงโฆษณาจำนวนมากขึ้นสามารถเข้าถึงและทดลองใช้ประโยชน์จากเครื่องมือการเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI (AI-driven optimization) และคำแนะนำที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละแบรนด์
"แบรนด์และผู้ลงโฆษณาไม่จำเป็นต้องใช้แคมเปญ Advantage+ sales หากไม่ต้องการใช้การเพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI ในการตั้งค่าใหม่นี้ สามารถเห็นได้อย่างง่ายดายว่า Advantage+ ถูกปิดอยู่หรือไม่ ผ่านปุ่มสลับในแถบด้านข้าง”
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าแคมเปญโฆษณาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ใช้แคมเปญ Advantage+ shopping มีผลตอบแทนต่อค่าใช้จ่ายโฆษณา (ROAS) สูงกว่าถึง 4 เท่า
