Microsoft กระตุ้นภาคธุรกิจ รีบเปลี่ยนเครื่อง Windows 10 พร้อมเพิ่มสินค้าสำหรับองค์กรในกลุ่ม Microsoft Surface Laptop และ Surface Pro ที่มากับ Copilot+ PC for Business ให้ตัวเลือกทั้งชิป Intel Core Ultra รุ่นที่ 2 และ Snapdragon X ซีรีส์ โดยจะเริ่มเปิดให้ภาคธุรกิจสั่งซื้อในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์ได้นำเสนอ Microsoft Surface Laptop และ Surface Pro ที่มากับ Intel Core Ultra รุ่นที่ 2 ออกสู่ตลาดคอนซูเมอร์ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการประมวลผลของ AI และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น เพื่อรองรับรูปแบบการใช้งานพีซีที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามมาด้วยการเปิดตัว Surface ที่เป็น Copilot+ PC for Business ในครั้งนี้ ที่มีการเพิ่มอีโคซิสเต็มของการบริหารจัดการอุปกรณ์ภายในองค์กร และเพิ่มเครื่องมือที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่ภาคธุรกิจ และยังมีแผนที่จะเพิ่มการเชื่อมต่อผ่าน 5G เข้าไปใน Surface รุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ไมโครซอฟท์ ออกมากระตุ้นให้ภาคองค์กรธุรกิจมีการลงทุนเปลี่ยนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งเดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ มาจากการที่ไมโครซอฟท์ประกาศยุติการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นี้ ดังนั้นจึงนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการอัปเกรดมาใช้งาน Windows 11 ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนหนึ่งที่ทำให้สินค้าสำหรับองค์กรมีความปลอดภัยมากขึ้น คือการใส่ชิป Microsoft Pluton ซึ่งเป็นชิปความปลอดภัยที่ฝังเข้าไปเพิ่มในซีพียู ช่วยป้องกันไม่ให้ฮาร์ดแวร์ถูกโจมตี พร้อมปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ไปจนถึงการเข้ารหัสข้อมูลให้มีความปลอดภัยสูงที่สุด
สำหรับ Surface Laptop for Business จะมาให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาดหน้าจอคือ 13.8 นิ้ว และ 15 นิ้ว ทำงานบนหน่วยประมวลผล Intel Core Ultra รุ่นที่ 2 ให้ระยะเวลาการใช้งานบนแบตเตอรี่สูงสุดที่ 22 ชั่วโมง ส่วน Surface Pro ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นที่ 2 มากับหน้าจอ 13 นิ้ว มีตัวเลือกจอ OLED ให้ปรับแต่งได้ ระยะเวลาใช้งานบนแบตเตอรี่สูงสุด 14 ชั่วโมง
โดยหลังจากการวางจำหน่ายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ จะส่งผลให้ Surface มีอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งชิปประมวลผลของ Intel และ Qualcomm ให้เลือกใช้งาน Copilot+ PC ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของไมโครซอฟท์ ที่จะมีสินค้าครบทั้งไลน์อัปพร้อมทำตลาดในปีนี้
