xs
xsm
sm
md
lg

ซิมชื่อไม่ตรง Mobile Banking 30 เม.ย.68 โดนตัดสิทธิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บัญชีม้าหนาวแน่! 'ดีอี' เดินหน้าล้างบางซิมชื่อไม่ตรง Mobile Banking โดนตัดสิทธิ 30 เม.ย.68 พบซิมเถื่อน 2.4 ล้านเบอร์ เสี่ยงถูกปิดถาวร

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเดินหน้ามาตรการยกระดับการตรวจสอบ Mobile Banking ตามนโยบายการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบัญชีม้า) ของรัฐบาล เริ่มมีผล 1 ก.พ.68 เป็นต้นไป ประชาชนที่มีชื่อผู้ถือซิมมือถือไม่ตรงกับบัญชี Mobile Banking จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร ให้ดำเนินการยืนยันตัวตนผ่านศูนย์บริการเครือข่ายมือถือภายในวันที่ 30 เม.ย.68 หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด อาจถูกระงับบริการ Mobile Banking ทันที สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับข้อความแจ้งเตือน ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ ธนาคารจะไม่มีการแจ้งเตือนผ่าน SMS หากพบข้อความลักษณะดังกล่าว ให้สงสัยว่าเป็นมิจฉาชีพทันที

ภายใต้ความร่วมมือของ กสทช. ค่ายมือถือ ปปง. ธปท. และธนาคารต่างๆ ได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์กว่า 120 ล้านเลขหมายแล้วเสร็จเมื่อปลายเดือน พ.ย.67 พบว่า กลุ่ม M (ชื่อเจ้าของซิมตรงกับบัญชี Mobile Banking) มีจำนวน 75.8 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 63.02% กลุ่ม N (ชื่อเจ้าของซิมไม่ตรงกับบัญชี Mobile Banking) จำนวน 30.9 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 25.68% และกลุ่ม P (ไม่พบชื่อเจ้าของซิม/ไม่มีข้อมูล) จำนวน 13.5 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 11.29%

โดยเฉพาะกลุ่ม P ซึ่งเป็นหมายเลขที่ตรวจสอบแล้วไม่พบชื่อเจ้าของซิม มีลูกค้า 2.4 ล้านราย ที่เปิดบัญชีตั้งแต่ปี 65 และใช้งาน Mobile Banking ก่อนปี 66 หากพบว่าข้อมูลซิมไม่สมบูรณ์ ต้องรีบติดต่อศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือที่ใช้งาน เพื่อดำเนินการปรับปรุงข้อมูลโดยด่วน


อย่างไรก็ตาม กระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณายกเว้นในกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้

1.เบอร์มือถือที่จดทะเบียนในชื่อหน่วยงานราชการ (เช่น สำนักงานอัยการสูงสุด) หรือองค์กรที่ใช้โดยพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ จะได้รับการพิจารณาเป็นข้อยกเว้น และไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการนี้

2.ลูกค้าที่มีความจำเป็น หรือข้อจำกัดเฉพาะ เช่น ไม่สามารถเปลี่ยนเบอร์มือถือได้ เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมาย หรือเอกสาร สามารถยื่นคำขอยกเว้น พร้อมเอกสารประกอบแสดงเหตุผลต่อธนาคาร

3.กลุ่มบุคคลในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ บุตร พี่น้อง ปู่ ย่า ตายาย คู่สมรส (จดทะเบียน) โดยจะต้องแสดงเอกสารความสัมพันธ์ต่อธนาคาร ได้แก่ เอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ เช่น ทะเบียนบ้าน สูติบัตร ทะเบียนสมรส เป็นต้น และเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ เช่น ใบกำกับภาษี ใบเสร็จ ค่าโทรศัพท์

4.นิติบุคคล ได้แก่ บริษัทเอกชน หรือนิติบุคคลตามกฎหมาย (กรณีที่ลงทะเบียนในนามนิติบุคคล และให้พนักงานในองค์กรใช้งาน) จะต้องมีเอกสารรับรองจากบริษัท ที่มีข้อความระบุชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และอนุญาตให้ใช้เบอร์โทรศัพท์ผูก Mobile Banking

5.ผู้ที่ต้องได้รับความดูแลตามกฎหมาย ได้แก่ ผู้ไร้ความสามารถ ผู้เสมือนไร้ความสามารถ และผู้พิการ จะต้องนำเอกสารตามคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้อนุบาล หรือเอกสารตามคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้พิทักษ์ บัตรผู้พิการ หรือเอกสารที่หน่วยงานราชการออกให้มายื่นแสดงต่อธนาคาร


ด้าน นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า AIS พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปีแห่งความปลอดภัยไซเบอร์ให้ประเทศไทย พร้อมสนับสนุนให้ทุกการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลของคนไทยปลอดภัยและมั่นใจยิ่งขึ้น รวมถึงเสริมสร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน จึงขอให้ลูกค้าที่ได้รับการแจ้งเตือนจากแอปธนาคารรีบดำเนินการปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยเอไอเอสพร้อมอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนอย่างเต็มที่

โดย AIS พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่มีชื่อจดทะเบียนซิมการ์ดไม่ตรงกับชื่อบัญชี Mobile Banking ตามที่ได้รับการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันของธนาคาร สามารถดำเนินการอัปเดตข้อมูลได้ฟรี! ที่ AIS Shop, AIS Telewiz, AIS Buddy หรือตัวแทนจำหน่าย AIS ทั่วประเทศ ทั้ง 2,400 จุด โดยไม่มีค่าดำเนินการ

สำหรับกรณีท่านที่ต้องการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ให้ตรงกับชื่อบัญชี Mobile Banking สามารถติดต่อธนาคารที่ให้บริการได้โดยตรง ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับการอนุโลมให้ชื่อจดทะเบียนซิมไม่ต้องตรงกับบัญชี Mobile Banking ได้แก่ ชื่อคนในครอบครัว ผู้ที่ต้องได้รับความดูแลตามกฎหมาย และนิติบุคคล โดยต้องนำเอกสารหลักฐานเฉพาะกลุ่มที่กำหนดไว้ มายืนยันตนที่ธนาคาร ภายใน 30 เม.ย.68 ดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.ais.th/consumers/help-and-support/cyber-threat-alerts/mobile-banking


ขณะที่ นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ความสำคัญต่อมาตรการของภาครัฐที่เป็นแนวทางเสริมสร้างความปลอดภัยทางการเงินและป้องกันซิมผี บัญชีม้า ซึ่งเรื่องดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องระหว่างธนาคารผู้ให้บริการกับลูกค้าที่ผูกบริการ Mobile Banking กับธนาคาร แต่ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะผู้ให้บริการที่เชื่อมต่อระหว่างธนาคารและลูกค้า พร้อมอำนวยความสะดวกลูกค้าผู้ใช้บริการตามหลักเกณฑ์และแนวทางของธนาคารเจ้าของบัญชี

โดยในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย.68 ธนาคารจะเป็นผู้ส่งข้อความแจ้งเตือนลูกค้าที่ต้องดำเนินการหากชื่อผู้ใช้งาน Mobile Banking ไม่ตรงกับชื่อเจ้าของซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ ดังนั้น หากลูกค้าไม่ได้รับการแจ้งเตือนก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ และสามารถใช้ Mobile Banking ได้ตามปกติ ขณะที่หากลูกค้าได้รับการแจ้งเตือนจากธนาคาร สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงจากธนาคารเจ้าของบัญชี

ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการ Mobile Banking ได้ตามปกติ จนถึงวันที่ 30 เม.ย.68 กรณีที่ต้องการเปลี่ยนชื่อผู้จดทะเบียนเบอร์มือถือให้ตรงกับชื่อเจ้าของบัญชี Mobile Banking ผู้จดทะเบียนเดิมและใหม่ สามารถนำบัตรประชาชนตัวจริงมาดำเนินการได้ที่ ทรูช้อป หรือศูนย์บริการดีแทค




กำลังโหลดความคิดเห็น