มองอีกด้าน "Jagat" แอปพลิเคชันที่เป็นกระแสจนเด็กวัยรุ่นและวัยทำงานในพื้นที่ 5 จังหวัดทั่วไทยพร้อมใจออกมาล่าเหรียญจนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวล พบ Jagat ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนชั้นนำ หนึ่งในนั้นคือบริษัทมูลค่าเกินพันล้านเหรียญสหรัฐ หรือยูนิคอร์นด้านเทคโนโลยีจากสิงคโปร์ ซึ่งไม่เพียงสนับสนุนด้านการเงิน แต่ยังช่วยเสริมศักยภาพด้านทรัพยากรและเครือข่ายระดับนานาชาติ
สถิติที่ผ่านมาชี้ว่าแอปพลิเคชัน Jagat นั้นมีจำนวนผู้ใช้งานรายวันทะลุ 1 ล้านคนภายในเดือนแรกหลังเปิดตัว ก่อนจะก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของชาร์ตระดับโลก ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าบริษัทมีผู้ใช้งานกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก ในจำนวนนี้มีผู้ใช้งานในอินโดนีเซียมากกว่า 1 ล้านคน นอกจากอินโดนีเซียแล้ว แอปพลิเคชันนี้ยังได้รับความนิยมในประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม และสเปน และมีผู้ใช้งานใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 200,000 รายต่อวัน
ความสำเร็จของ Jagat ซึ่งเรียกตัวเองว่า "แพลตฟอร์มโซเชียลเมตาเวิร์ส" นั้นไม่ได้สร้างมาได้ด้วยตัวผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการสนับสนุนของหลายฝ่ายที่ระดมเข้ามาต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2022
***รวมประสบการณ์เสมือนจริงกับชุมชนดิจิทัล
Jagat เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2022 ซึ่งตรงกับวันคำปฏิญาณเยาวชนของอินโดนีเซีย ตัวแพลตฟอร์มถูกพัฒนาให้รองรับการใช้งานทั้งบนสมาร์ทโฟน ผ่าน Google Play และ App Store รวมถึงเว็บเบราว์เซอร์ที่ play.jagat.io จุดเด่นสำคัญคือการผสมผสานฟีเจอร์ทางสังคมเข้ากับเทคโนโลยีโลกเสมือน ให้ผู้ใช้สามารถสร้างอวตาร พื้นที่ส่วนตัว และมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้หลากหลายรูปแบบ
ด้วยตัวเลขคาดการณ์มูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลของอินโดนีเซียที่เชื่อว่าจะสูงถึง 220 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ขณะที่ประชากรอายุต่ำกว่า 25 ปีนั้นคิดเป็น 40% ของตลาดดิจิทัลทั้งหมด โปรเจกต์ Jagat จึงได้รับการสนับสนุนจากทั้ง Northstar Group นักลงทุนที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ Advance Intelligence Group บริษัทยูนิคอร์นด้าน AI จากสิงคโปร์ที่มีพันธมิตรกว่า 700 องค์กร และกว่า 15,000 แบรนด์ระดับภูมิภาคและระดับโลก
แบร์รี่ บีเกน (Barry Beagen) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Jagat บอกในเวลานั้นว่า Jagat ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มโซเชียล แต่เป็นเมืองดิจิทัลที่ผู้ใช้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ โดยมุ่งออกแบบระบบให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การประชุมเสมือนจริง การจัดแสดงสด ไปจนถึงกิจกรรมสันทนาการต่างๆ โดยทุกฟีเจอร์ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของการสร้างประสบการณ์ร่วมที่สมจริงและสนุกสนาน
การเปิดตัวครั้งนั้นได้รับเกียรติจากประธานาธิบดีโจโก วิโดโด พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมในพิธี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฟีเจอร์ Jagat Nusantara ซึ่งเป็นการจำลองเมืองหลวงแห่งใหม่ของอินโดนีเซียในรูปแบบดิจิทัล สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
เจฟเฟอร์สัน เฉิน (Jefferson Chen) ประธานกรรมการและซีอีโอของ Advance Intelligence Group เชื่อว่าด้วยเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในอินโดนีเซียและระดับโลก บริษัทพร้อมสนับสนุนการพัฒนา Jagat ให้เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่สมบูรณ์แบบ พร้อมเชื่อมโยงพันธมิตรของ Advance Intelligence Group กับผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียรุ่นใหม่นับล้านคน
บนแผนการพัฒนาทั้งการนำเทคโนโลยี Web3 มาใช้สร้างระบบเศรษฐกิจ และการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ยั่งยืนสำหรับครีเอเตอร์และผู้ใช้งาน ทีมงานหลักของ Jagat ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชัน เกม อีคอมเมิร์ซ ฟินเทค การออกแบบ สถาปัตยกรรม ความบันเทิง และบล็อกเชน ซึ่งพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
การเปิดตัวของ Jagat ในเวลานั้นจึงถือเป็นก้าวสำคัญของวงการเทคโนโลยีในอินโดนีเซีย ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัปท้องถิ่นในการพัฒนานวัตกรรมระดับโลก พร้อมตอบรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Advance Intelligence Group ยูนิคอร์นเทคโนโลยีจากสิงคโปร์ และ Northstar Group นักลงทุนที่มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มทุนเหล่านี้ไม่เพียงสนับสนุนด้านการเงิน แต่ยังช่วยเสริมศักยภาพด้านทรัพยากรและเครือข่ายระดับนานาชาติ
***Jagat พัฒนาการที่ไม่หยุดนิ่ง
ตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2022 ดาวรุ่งอย่าง Jagat ได้นำเสนอฟีเจอร์หลากหลายที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตัวละครเสมือน การจัดกิจกรรมสดในโลกเมตาเวิร์ส หรือแม้กระทั่งการพัฒนาฟีเจอร์เหรียญดิจิทัล เช่น Coin Hunt ที่ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเหรียญเพื่อแลกรับรางวัลในโลกจริง
อย่างไรก็ตาม เมื่อฟีเจอร์ Coin Hunt ก็ได้กลายเป็นประเด็นถกเถียงในหลายประเทศ เช่น ไทยและอินโดนีเซีย เนื่องจากมีรายงานว่าเหรียญบางส่วนถูกซ่อนไว้ในพื้นที่ส่วนตัว ทำให้เกิดปัญหาการละเมิดสิทธิและความปลอดภัย ทีมผู้พัฒนา Jagat จึงประกาศปรับปรุงฟีเจอร์นี้ใหม่เป็น Misi Jagat ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนและพื้นที่สาธารณะ
Barry Beagen ย้ำว่า Jagat ได้เรียนรู้จากปัญหาและพร้อมปรับตัวเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้ผู้ใช้งาน โดยเชื่อว่า Misi Jagat จะช่วยให้ผู้ใช้มีบทบาทในการพัฒนาสังคมดิจิทัลอย่างยั่งยืน
สรุปแล้ว การเติบโตของ Jagat ไม่ได้มีนัยเพียงแค่เรื่องตัวเลขผู้ใช้งาน แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน Jagat ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่กับระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่ง Barry Beagen ย้ำว่า Jagat มองเห็นโอกาสในเทคโนโลยี Web3 ที่จะสร้างระบบเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วม ซึ่งผู้ใช้และนักสร้างสรรค์จะมีบทบาทสำคัญในโลกเสมือน
ดังนั้น แม้ Jagat จะต้องเผชิญกับความท้าทาย ทั้งการปรับตัวต่อข้อกำหนดทางกฎหมายและการจัดการปัญหาด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ แต่ด้วยความที่ Jagat มีทีมพัฒนาที่มีประสบการณ์หลากหลายจากแวดวงเทคโนโลยี ตั้งแต่การออกแบบ เกม และบล็อกเชน ทำให้ Jagat ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่น่าจับตามองในยุคดิจิทัลต่อไป