ไทยคมเซ็นสัญญา GISTDA พัฒนาจานสายอากาศควบคุมดาวเทียม THEOS ต่อยอดข้อมูลสำรวจโลก สร้างโซลูชันเทคโนโลยีอวกาศ ยกระดับอุตสาหกรรมไทย
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ยกระดับความเป็นผู้นำด้านธุรกิจดาวเทียมและเทคโนโลยีอวกาศ ล่าสุดเซ็นสัญญากับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ในการจัดหาระบบจานสายอากาศสำหรับควบคุมและรับสัญญาณกลุ่มดาวเทียม THEOS โครงการนี้ตั้งอยู่ ณ สถานีควบคุมดาวเทียมไทยโชต อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลดาวเทียมและรองรับการสำรวจโลกในอนาคต
ไทยคม ซึ่งมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมดาวเทียมกว่า 30 ปี ได้รับความไว้วางใจจาก GISTDA ในฐานะผู้นำเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจดาวเทียมในภูมิภาค ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสององค์กร หลังจากร่วมลงนาม MOU ในงาน Thailand Space Week
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงยืนยันศักยภาพของไทยคมในฐานะผู้จัดหาระบบจานสายอากาศ แต่ยังเปิดโอกาสให้ไทยคมนำข้อมูลจากดาวเทียมของ GISTDA มาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์หลากหลายด้าน เช่น การเกษตรแม่นยำ การจัดการที่ดิน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการเฝ้าระวังภัยพิบัติ ตอกย้ำบทบาทของไทยคมในฐานะผู้นำเทคโนโลยีอวกาศแห่งประเทศไทย
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยคมได้รับความไว้วางใจจาก GISTDA ในการจัดหาระบบจานสายอากาศสำหรับรับสัญญาณและควบคุมดาวเทียม เสริมสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมดาวเทียมและเทคโนโลยีอวกาศของประเทศ ความสำเร็จครั้งนี้ยังตอกย้ำการใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายดาวเทียม THEOS และดาวเทียมสำรวจโลกอื่นๆ เพื่อพัฒนาโซลูชันด้าน Space Tech ที่ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับประเทศและภูมิภาค พร้อมยกระดับความยั่งยืนให้แก่ภาครัฐและเอกชน ขอบคุณ GISTDA สำหรับความเชื่อมั่นในความร่วมมือครั้งสำคัญนี้
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า GISTDA ร่วมมือกับไทยคมในโครงการจัดหาระบบจานสายอากาศใหม่ ทดแทนระบบเดิมที่ชำรุด เพื่อรองรับการรับสัญญาณและควบคุมดาวเทียมในกลุ่ม THEOS และดาวเทียมสำรวจโลกอื่นๆ ระบบจานสายอากาศใหม่นี้มีประสิทธิภาพสูง ช่วยส่งข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมกลับมายังสถานีภาคพื้นดินอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทั้งพื้นที่ในประเทศไทยและทั่วโลก
ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้สามารถนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมไปใช้บริหารจัดการเชิงพื้นที่ในมิติต่างๆ ช่วยเพิ่มศักยภาพการแก้ปัญหาและวางแผนพัฒนาประเทศได้อย่างทันสถานการณ์