ทักษิณปลุกดรามา! ดันเว็บพนันถูกกฎหมาย 'ดีอี' แง้มศึกษายังไม่จบ โชว์สถิติสกัดเดือด ปิดเว็บผิดกฎหมายกว่า 72,000 URL ใน 3 ปี
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดประเด็นใหม่ด้วยข้อเสนอให้เว็บพนันออนไลน์กลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย โดยเชื่อว่าน่าจะช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทว่าฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อเสนอนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและไม่มีข้อสรุปในตอนนี้
น่าสังเกตว่าก่อนหน้านี้ กระทรวงดีอีทำงานอย่างเข้มงวดในการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ ด้วยการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และมาตรา 12 ของ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 เพื่อขอหมายศาลปิดเว็บผิดกฎหมายเหล่านี้โดยตรง
นอกจากการปิดเว็บ ผู้เล่นพนันออนไลน์จะต้องเผชิญโทษตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ถึงขั้นจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การเล่นพนันออนไลน์จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามได้ง่ายในแง่กฎหมายและผลกระทบต่อสังคม
ด้าน แหล่งข่าวกระทรวงดีอี กล่าวว่า หากประเทศไทยต้องการเดินหน้าทำให้การพนันออนไลน์กลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย สิ่งแรกที่ต้องทำคือปรับปรุงกฎหมายปัจจุบันอย่าง พ.ร.บ.การพนัน ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงมหาดไทย หรือหากต้องการความชัดเจนและครอบคลุมมากขึ้น อาจต้องออกกฎหมายใหม่โดยระบุให้กระทรวงที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ กฎหมายที่จะบังคับใช้นั้นจำเป็นต้องกำหนดรายละเอียดชัดเจนว่า ประเภทของการพนันออนไลน์ที่จะอนุญาตมีอะไรบ้าง และต้องมีข้อห้ามเพื่อป้องกันผลกระทบทางสังคม ซึ่งในระดับโลก หลายประเทศได้ทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายแล้ว รวมถึงบางประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับไทย เช่น พม่า เวียดนาม และสิงคโปร์ แต่ในทางกลับกัน ประเทศที่ยังถือว่าการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายส่วนใหญ่เป็นประเทศที่มีความเคร่งครัดทางศาสนา
สำหรับสถิติการปิดเว็บพนันออนไลน์ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แสดงถึงความเข้มงวดและประสิทธิภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2566 (1 ต.ค.65-30 ก.ย.66) มีการปิดเว็บพนันออนไลน์จำนวน 2,059 URLs ปีงบประมาณ 2567 (1 ต.ค.66-30 ก.ย.67) ปิดเพิ่มขึ้นเป็น 62,213 URLs และในปีงบประมาณ 2568 (1 ต.ค.67-30 พ.ย.67) ปิดไปอีก 8,129 URLs รวมทั้งหมดกว่า 72,000 URLs
คำถามที่เหลือ คือ ประเทศไทยพร้อมหรือยังที่จะเดินตามรอยประเทศเหล่านั้น และจะจัดการกับผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างไร?