กสทช.เลื่อนถกมาตรการควบรวมทรู-ดีแทค เป็น 18 ธ.ค.67 หลังสำนักงานไม่ส่งเอกสารเปรียบเทียบ ทรูยันไม่ได้ขอยกเลิก แค่ขอความเป็นธรรมเรื่องระยะเวลาเทียบเคส AIS
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กสทช. ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในวาระที่ 4.23 เรื่องรายงานการศึกษาเปรียบเทียบมาตรการเฉพาะกรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงกรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด กับบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)
แหล่งข่าวจาก กสทช.เผยว่า การประชุมไม่สามารถพิจารณารายงานการศึกษาเปรียบเทียบได้ เนื่องจากสำนักงานไม่ได้จัดส่งเอกสารดังกล่าวให้ที่ประชุม แต่กลับขอให้พิจารณาข้อร้องเรียนของทรู ที่ขอยกเลิกมาตรการเงื่อนไขหลังควบรวม ซึ่งกำหนดให้ปฏิบัติภายใน 90 วัน หลังการอนุมัติควบรวมเมื่อ 20 ต.ค.65
กสทช.บางส่วนชี้ว่า ธุรกิจโทรศัพท์มือถือและบรอดแบนด์มีความแตกต่างกัน มาตรการหลังควบรวมอาจไม่เหมือนกัน จึงต้องการเห็นรายงานเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ แต่สำนักงานกลับไม่ได้จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง จึงต้องเลื่อนการพิจารณาไปยังวันที่ 18 ธ.ค.67
ด้าน นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ทรูไม่ได้ขอยกเลิกมาตรการดังกล่าว แต่ต้องการขอความเป็นธรรมเรื่องระยะเวลาในการปฏิบัติตามมาตรการ เช่นเดียวกับกรณีบรอดแบนด์ของ AIS ที่มีระยะเวลากำหนดที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการที่ทรูต้องปฏิบัติตามหลังควบรวม ประกอบด้วย 1.การรายงานข้อมูลบัญชีแยกประเภทในกิจการโทรคมนาคมแก่สำนักงาน กสทช. ทุก 3 เดือน และ 2.จัดหาที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์กว่า 5 ปีในด้านการสอบทานโครงสร้างต้นทุนและอัตราค่าบริการ โดยที่ปรึกษาจะต้องดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างต้นทุนและอัตราค่าบริการอย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง ตลอดระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี หรือจนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นสุด
สำหรับเงื่อนไขของบรอดแบนด์ AIS ได้กำหนดมาตรการเฉพาะ เช่น ห้ามขึ้นราคาหรือลดคุณภาพบริการ และคงแพกเกจราคาต่ำสุดสำหรับอินเทอร์เน็ตประจำที่เป็นเวลา 5 ปี พร้อมจัดตั้งอนุกรรมการติดตามการควบรวมธุรกิจเพื่อป้องกันผลกระทบต่อผู้บริโภค