ซินเน็คมั่นใจการเปิด Nintendo Store จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มแฟน รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงประสบการณ์จากเครื่องเกม โดยเฉพาะครอบครัว คาดปีหน้ารายได้จากสินค้า Nintendo ราว 800-1,000 ล้านบาท
สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยการที่นินเทนโด้เป็นบริษัทที่อยู่มายาวนานกว่า 130 ปี ทำให้มีฐานแฟนในหลากหลายช่วงอายุ ขณะเดียวกัน ไทยนับเป็นประเทศที่มีฐานเกมเมอร์ค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับในภูมิภาค
ทำให้ในปีที่ผ่านมาหลังจากซินเน็คได้สิทธิในการเป็นเอ็กซ์คลูซีฟดิสทริบิวเตอร์ในประเทศไทย เริ่มมีการนำสินค้าของ Nintendo เข้ามาทำตลาดให้หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะเครื่องเกมคอนโซล Nintendo Switch และแผ่นเกม แต่รวมสินค้าในกลุ่ม Merchandise เข้ามาทำตลาดด้วย
“การเปิด Nintendo Store ในครั้งนี้ เกิดขึ้นบนพื้นฐานของความต้องการให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ในการเดินชมร้านค้าเหมือนอยู่ในประเทศญี่ปุ่น มีกิจกรรม และการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะประสบการณ์ร่วมกันในครอบครัว”
โดยลูกค้าที่ซื้อเครื่องเกมคอนโซลจากทางซินเน็ค จะได้รับระยะเวลารับประกันที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 ปี ซึ่งคาดว่าตลาดเครื่องเกมจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงปี 2025 จากที่ปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มชะลอซื้อเนื่องจากเป็นสินค้าที่เปิดตัวมานานแล้ว
สำหรับการเปิด Nintendo Store ในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่ายด้วยกัน คือ ซินเน็ค ที่เป็นผู้นำเข้า คอปเปอร์ ไวร์ด มาช่วยบริหารจัดการร้านค้า และใช้งบลงทุนไปกว่า 20 ล้านบาท ในการเปิด Nintendo Store ครั้งนี้
สุดท้ายคือฝั่งของสยามพารากอน ที่เปิดพื้นที่กว่า 300 ตารางเมตร เพื่อให้ร้านค้านี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว (Tourist Destination) ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย เพราะเป็น Nintendo Store แห่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้