xs
xsm
sm
md
lg

'ดีอี' ปิดกั้น 13,000 เพจ/URL ผิดกฎหมายในเดือนเดียว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ดีอี' เร่งเครื่อง! ปิดเพจ/URL ผิดกฎหมาย 150,425 รายการในปี 67 เพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่าจากปีก่อน ต.ค.เดือนเดียว ปิดแล้ว 13,000 รายการ

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ตามนโยบายเร่งด่วนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยเน้นการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ที่มี URL ผิดกฎหมายเพื่อสกัดกั้นช่องทางที่มิจฉาชีพใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงดีอีระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1-30 ต.ค.67 ได้ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ผิดกฎหมายทุกประเภทแล้วรวม 13,220 รายการ เพิ่มขึ้น 1.36 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่มี 9,728 รายการ โดยประเภทของเนื้อหาที่ถูกปิดกั้นในเดือนนี้แบ่งเป็น

- พนันออนไลน์ 2,974 รายการ เพิ่มขึ้น 1.33 เท่า จากปีก่อนที่มี 2,236 รายการ
- บิดเบือน/หลอกลวงออนไลน์ 4,884 รายการ ลดลง 0.31 เท่า จาก 7,070 รายการในปีก่อน
- อื่นๆ 5,362 รายการ เพิ่มขึ้นถึง 12.71 เท่าจากปีก่อนที่มีเพียง 422 รายการ

นอกจากนี้ สถิติการปิดกั้นโซเชียลมีเดียและ URL ผิดกฎหมายในรอบปีที่ผ่านมา (1 ต.ค.66-30 ก.ย.67) พบว่ามีการปิดกั้นรวมทั้งสิ้น 150,425 รายการ เพิ่มขึ้น 8.51 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีจำนวน 17,670 รายการ

"กระทรวงดีอีปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงวันที่ 1-30 ต.ค.67 มียอดปิดกั้นกว่า 13,000 รายการ ทั้งนี้ กระทรวงได้เพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงานผ่านการตรวจสอบและเฝ้าระวังตลอดเวลา รวมถึงการบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการร่วมมือจากประชาชนที่แจ้งเบาะแสข่าวปลอมและเว็บไซต์ผิดกฎหมายผ่านสายด่วน 1111" นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงดีอีเตือนประชาชนให้ระมัดระวังข่าวปลอม ข้อมูลบิดเบือน และกลโกงของมิจฉาชีพที่หลอกให้ลงทุนหรือกดลิงก์จากโซเชียลมีเดีย เพจ และ URL ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้สูญเสียข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สิน หากมีการแชร์หรือเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง


กำลังโหลดความคิดเห็น