จะเกิดอะไรขึ้นบ้างกับบัญชี TikTok ของเราถ้าเราเสียชีวิต ต่อไปนี้คือวิธีเตรียมข้อมูลในเบื้องต้น เพื่อจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลหลังจากเจ้าของบัญชีต้องออกเดินทางไกลอีกครั้ง
นอกจากทรัพย์สินเงินทองของนอกกาย เพื่อนและครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วอาจต้องเหนื่อยใจกับทรัพย์สินดิจิทัลหลังจากที่คนใกล้ตัวเสียชีวิตไป สถานการณ์นี้แก้ไขได้ในบางแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าไว้ก่อนในลักษณะเดียวกันกับการทำพินัยกรรมเพื่อระบุว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดทรัพย์สินดิจิทัลเหล่านี้ เพื่อรับช่วงต่อทั้งไฟล์ รูปภาพ และข้อมูลจากเจ้าของบัญชีที่จากไป
***TikTok
- ผู้ใช้ TikTok ยังไม่สามารถตั้งค่าได้เองว่าจะยกให้ใครเป็นผู้ดูแลบัญชีต่อหากเสียชีวิต แต่จะต้องรอให้มีผู้แจ้ง และรายงานว่าเจ้าของบัญชีเสียชีวิตแล้ว
- การแจ้งสามารถทำได้โดยคลิก: การตั้งค่า > รายงานปัญหา > บัญชีและโปรไฟล์ > จัดการบัญชี หรือ Settings > Report a Problem > Account and profile > Manage account
- เลือกตั้งค่าบัญชีให้เป็นอนุสรณ์หรือ Memorialized account
- เมื่อบันทึกแล้ว บัญชีจะถูกระบุว่า "ระลึกถึง" หรือ Remembering
- บัญชี Memorialized account หรือบัญชีเพื่อเป็นอนุสรณ์ จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบ แก้ไข หรือใช้บัญชีเพื่อโพสต์/ส่งข้อความได้
***Apple
- ผู้ใช้ iPhone และ iPad รวมถึงนานาอุปกรณ์และบริการของ Apple สามารถเสนอชื่อ "ผู้ติดต่อรับมรดก" หรือ legacy contact เพื่อให้บุคคลที่เชื่อถือได้ มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลบัญชี Apple หลังจากที่เราเสียชีวิต ทั้งรูปภาพ ไฟล์ และข้อความ
- หากต้องการตั้งค่า จะต้องมีอุปกรณ์ Apple ที่มีระบบปฏิบัติการล่าสุด โดย iPhone และ iPad ต้องใช้ iOS หรือ iPadOS 15.2 และ MacBook ต้องใช้ macOS Monterey 12.1
- สำหรับ iPhone ให้ไปที่การตั้งค่า > ลงชื่อเข้าใช้และความปลอดภัย > ผู้ติดต่อมรดก หรือ settings > Sign-in & Security > Legacy Contact
- สามารถตั้งชื่อบุคคลได้หนึ่งคนหรือมากกว่านั้น และบุคคลนั้นไม่จำเป็นต้องมี Apple ID
- ผู้ใช้จะต้องส่งรหัสการเข้าถึงให้ผู้รับมรดก สามารถบันทึกเป็นภาพหน้าจอหรือ PDF ก็ได้
- ไฟล์บางประเภทไม่สามารถส่งต่อเป็นมรดกได้ เช่น เพลง ภาพยนตร์ และรหัสผ่านที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิดิจิทัลซึ่งเก็บไว้ในระบบจัดการรหัสผ่านของ Apple
- ผู้รับมรดกสามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ที่เสียชีวิตแล้ว ในเวลา 3 ปีก่อนที่ Apple จะลบบัญชีนั้น
- Google เปิดให้ผู้ใช้ตั้งค่าผู้รับมรดกเช่นกัน แต่ผู้รับมรดกจะต้องรอให้ครบเวลาที่เจ้าของบัญชีตั้งไว้ ว่าจะอนุญาตให้ผู้รับมรดกเข้าถึงข้อมูลได้เมื่อใด
- ใครที่ต้องการตั้งค่าผู้รับมรดก จะต้องเข้าไปที่ระบบจัดการบัญชีที่ไม่ถูกใช้งาน หรือ Inactive Account Manager ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าของบัญชีส่งข้อมูลให้ผู้อื่นได้ หากตรวจพบว่ามีการหยุดใช้บัญชีไปนานระยะหนึ่งแล้ง
- เมื่อตั้งค่า เจ้าของบัญชีต้องตัดสินใจว่าจะให้ผู้รับมรดกรอคอยเป็นเวลานานเท่าใด โดย Google เปิดให้เลือกตั้งแต่ 3 ถึง 18 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนด จึงถือว่าบัญชีนั้นไม่มีการใช้งาน
- เมื่อถึงเวลา Google จะแจ้งเตือนผู้ที่เจ้าของบัญชีตั้งค่าไว้ได้สูงสุด 10 คน ผู้ใช้สามารถเขียนข้อความแจ้งให้ทุกคนทราบว่าได้หยุดใช้บัญชีแล้ว และหากต้องการ ผู้ใช้รายนั้นสามารถกดลิงก์เพื่อดาวน์โหลดข้อมูลของเจ้าของบัญชีได้
- เจ้าของบัญชีสามารถเลือกประเภทของข้อมูลที่แต่ละคนจะเข้าถึงได้ ตั้งแต่อีเมล รูปภาพ รายการปฏิทิน และวิดีโอ YouTube
- นอกจากใส่ชื่อผู้รับมรดก เจ้าของบัญชียังมีตัวเลือกในการลบบัญชีโดยอัตโนมัติหลังจากไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 3 เดือน ดังนั้น ผู้รับมรดกจะต้องดาวน์โหลดข้อมูลให้เสร็จก่อนถึงกำหนด
***Meta (Facebook/Instagram)
- แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook และ Instagram เปิดให้ผู้ใช้สามารถรักษาบัญชีของผู้เสียชีวิตไว้ได้ เพื่อเป็น memorial account อนุสรณ์ให้เพื่อนและครอบครัวสามารถรำลึกถึง
- เมื่อผู้ใช้ Facebook หรือ Instagram เสียชีวิต เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว สามารถส่งคำขอผ่านแบบฟอร์มออนไลน์
- ผู้ใช้ Facebook สามารถเพิ่มบุคคลที่ไว้ใจ เพื่อดูแลบัญชีอนุสรณ์ของตัวเองได้ โดยผู้รับมรดกยังสามารถทำกิจกรรมได้แทนเจ้าของบัญชี เช่น ตอบกลับคำขอเป็นเพื่อนใหม่ หรืออัปเดตโพสต์ที่ปักหมุดไว้ แต่จะไม่สามารถอ่านข้อความส่วนตัว ลบหรือแก้ไขโพสต์ก่อนหน้าได้
- เจ้าของบัญชีสามารถเลือกได้เพียงคนเดียว และผู้รับมรดกต้องมีบัญชี Facebook ด้วย
- ครอบครัว หรือผู้ดำเนินการตามพินัยกรรม สามารถร้องขอให้ลบบัญชีขอฝผู้จากไปได้ โดยจะต้องส่งเอกสาร เช่น ใบมรณบัตร ซึ่งเป็นหลักฐานเดียวกันกับการยื่นเรื่องเพื่อตั้งค่าเป็น memorial account
***X (Twitter)
- ไม่มีระบบมรดกหรือ legacy contact system
- สมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาต สามารถร้องขอให้ปิดใช้งานบัญชีได้
***รหัสผ่านต่างๆ
- สำหรับรหัสผ่านบริการอื่นๆ ผู้ใช้ที่ต้องการมอบมรดกอาจมองหาระบบจัดการรหัสผ่าน ซึ่งจะอนุญาตให้มีการรับรหัสผ่านได้ในกรณีฉุกเฉิน
- บริการเช่น Keeper, Bitwarden หรือ NordPass อาจอนุญาตให้ผู้ที่เชื่อถือได้ สามารถขอรหัสผ่านใหม่ในกรณีฉุกเฉิน แต่มีข้อแม้ว่า ผู้รับมรดกต้องใช้งานระบบจัดการรหัสผ่านค่ายเดียวกัน
- ฟีเจอร์รับรหัสผ่านใหม่กรณีฉุกเฉิน อาจต้องสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน
สิ่งสำคัญของการทำพินัยกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ คือแต่ละแพลตฟอร์มจะมีกระบวนการต่างกัน ซึ่งแม้จะมีวิธีการระลึกถึงหรือโอนสิทธิการเข้าถึงบัญชีหลังจากเสียชีวิตในคนละแนวทาง แต่การตั้งค่าไว้ล่วงหน้า ก็จะทำให้เจ้าของบัญชีแน่ใจได้ระดับหนึ่งว่าคนที่เรารัก จะสามารถเข้าถึงหรือจัดการมรดกดิจิทัลของเราได้ง่ายขึ้น