วงการช็อก! คำสั่งลับหลุด แต่งตั้ง 'ไตรรัตน์' นั่งรองเลขาธิการ กสทช.ยาวจนเกษียณ เร่งปิดดีล 60 วันแบบผิดปกติ คำสั่งส่อแววขัดกฎหมาย-บอร์ดใหม่หมดสิทธิเลือก
การประชุม กสทช. ครั้งที่ 22 วันที่ 4 ต.ค.67 มีประเด็นร้อน วาระค้างพิจารณาจากครั้งที่ 20 เกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช. ทั้ง นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล และ นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน ที่จะหมดวาระในเดือน เม.ย.68
สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีคำสั่งลับจากสำนักงาน กสทช. หลุดออกมา 2 ฉบับ คำสั่งแรก ลงนามโดย นายสุทธิศักดิ์ แต่งตั้ง นายไตรรัตน์ เป็นพนักงานประจำต่อเนื่องถึงวันเกษียณ เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.68 หลังหมดวาระ ขณะที่อีกฉบับเป็นหนังสือขอยกเลิกคำสั่งดังกล่าว
คำสั่งแต่งตั้ง นายไตรรัตน์ อ้างอิงระเบียบ กสทช. พ.ศ.2565 ข้อ 88 ให้ผู้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสายงานยุทธศาสตร์ดำรงตำแหน่งต่อ หากผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงาน โดย นายไตรรัตน์ ได้รับการประเมินผ่านตามหลักเกณฑ์ และได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานประจำ
ทั้งนี้ หลังมีคำสั่งแต่งตั้ง นายไตรรัตน์ เป็นพนักงานประจำต่อเนื่องจนเกษียณ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.67 ไม่กี่วัน นายสุทธิศักดิ์ ได้ทำหนังสือขอยกเลิกคำสั่งดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า มีประเด็นด้านกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการออกคำสั่ง ซึ่งอยู่ในขอบเขตการรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. จึงจำเป็นต้องยกเลิกคำสั่ง เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายในภายหลัง
จากการสอบถามแหล่งข่าววงใน อดีตกรรมการ กสทช. เผยว่า การยกเลิกคำสั่งเกิดจากการร้องเรียนภายใน สำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการแต่งตั้ง นายไตรรัตน์ ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ กตป. ซึ่งสร้างความกังวลให้ นายสุทธิศักดิ์ เกี่ยวกับอำนาจในการรักษาการแทน นายไตรรัตน์ ขณะที่เจ้าตัวอยู่ต่างประเทศ
ย้อนกลับไปยังการประชุม กสทช. ครั้งที่ 24/2564 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.64 มติที่ประชุมเห็นชอบในการปรับปรุงระเบียบการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2555 เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและการพิจารณาปรับปรุงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำหนดตำแหน่งรองเลขาธิการ กสทช. สายงานยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร ให้เป็นตำแหน่งพนักงานประจำ หากผู้ดำรงตำแหน่งผ่านการประเมินจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานประจำต่อไป
ในการประชุม กสทช. นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ในฐานะเสียงข้างน้อย ขอสงวนความเห็นต่อมติที่ประชุม แม้จะเห็นด้วยกับหลักการปรับปรุงระเบียบการบริหารงานบุคคล แต่ไม่เห็นด้วยในสาระสำคัญที่เสนอให้ปรับตำแหน่งรองเลขาธิการและผู้เชี่ยวชาญให้เป็นตำแหน่งประจำ
นพ.ประวิทย์ ระบุว่า การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะมีผลผูกพันในระยะยาว ส่งผลให้คณะกรรมการ กสทช. ชุดใหม่และเลขาธิการคนใหม่ที่จะมารับตำแหน่งในอนาคต ขาดโอกาสในการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งรองเลขาธิการด้านต่างๆ ด้วยตนเอง ดังนั้นจึงควรให้คณะกรรมการ กสทช. ชุดใหม่เป็นผู้พิจารณาประเด็นนี้ แทนที่จะเร่งตัดสินใจในช่วงวาระสุดท้ายของกรรมการชุดปัจจุบัน
แหล่งข่าวเผยว่า กรรมการ กสทช. ชุดที่แล้ว ภายใต้การนำของ พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร มีมติให้ตำแหน่งรองเลขาธิการสายงานยุทธศาสตร์เป็นพนักงานประจำ โดยให้ความได้เปรียบ นายไตรรัตน์ ก่อน หากคณะกรรมการ กสทช. ชุดใหม่ประเมินผ่าน ซึ่งเกณฑ์การประเมินต้องออกโดยกรรมการ กสทช. ทั้งชุด หากไม่ผ่าน จะต้องทำการสรรหาบุคคลใหม่แทน และคนที่ได้รับการแต่งตั้งจะดำรงตำแหน่งเป็นพนักงานประจำจนถึงวันเกษียณ
ประเด็นสำคัญ คือ การแต่งตั้งนี้ถูกเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งเร็วเกินไปจากปกติที่ควรใช้เวลาอย่างน้อย 180 วัน อีกทั้ง บอร์ด กสทช. ยังไม่ได้ร่างเกณฑ์การประเมินตามที่ตั้งใจไว้ แต่สำนักงาน กสทช. กลับใช้เกณฑ์ประเมินพนักงานทั่วไป ซึ่งไม่ตรงกับการประเมินตำแหน่งรองเลขาธิการสายงานยุทธศาสตร์ตามที่บอร์ดชุดก่อนต้องการ
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการฟ้องร้องระหว่าง นายไตรรัตน์ กับ กสทช. เสียงข้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเชื่อว่า หาก นายไตรรัตน์ มีผลงานที่ชัดเจน ก็ไม่น่าจะมีใครกล้าประเมินไม่ผ่าน เนื่องจากอาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157