Apple Watch รุ่นที่ 10 มีการปรับดีไซน์ใหม่เพื่อรับกับการทำตลาดสมาร์ทวอทช์ที่ยาวนานกว่า 10 ปี ของ Apple ซึ่งปัจจุบันถือเป็นผู้นำในตลาดนาฬิกาอัจฉริยะเพื่อสุขภาพนี้ โดยในรุ่นใหม่นี้ปรับหน้าจอให้ใหญ่ขึ้น ขอบจอบางลง พร้อมวัสดุใหม่ไทเทเนียม
แน่นอนว่า Apple Watch 10 ยังมีให้เลือกกัน 2 ขนาดที่ 42 มม. และ 46 มม. หน้าจอมีการปรับมาใช้จอ OLED ที่มีความคมชัด และประหยัดพลังงานมากขึ้น รองรับการแสดงผลแบบติดตลอดเวลา (Always On Display)
ในปีนี้มีการปรับวัสดุที่ใช้งานทั้งรุ่นที่เป็นอะลูมิเนียม และรุ่นที่ใช้วัสดุไทเทเนียม ซึ่งแอปเปิลเริ่มนำมาใช้งานกับ iPhone 15 ชิปเซ็ตที่ใช้ปรับปรุงให้รองรับการประมวลผล AI มากขึ้น กับชิป S10 มาพร้อม NPU 4 แกน เพื่อให้รองรับการทำงานร่วมกับ watchOS 11
ภายในมีการเพิ่มความสามารถทางด้านสุขภาพอย่างการตรวจจับการหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep Apnea) ที่จะทำงานร่วมกับฟีเจอร์ตรวจจับการนอน ที่จะคอยเก็บข้อมูลย้อนหลังก่อนแสดงผลออกมา โดยความสามารถนี้ ย้อนไปใช้งานกับ Apple Watch รุ่นที่ 9 และ Apple Watch Ultra 2
ขณะที่ความสามารถด้านสุขภาพเดิมอย่างการตรวจจับการเคลื่อนไหว การนอน อัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด จังหวะการเต้นของหัวใจบิดพลิ้ว ตรวจจับการล้ม ตรวจจับการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่างๆ ยังมีมาให้ใช้งานอยู่เช่นเดิม
ในส่วนของ Apple Watch Ultra 2 มีการเพิ่มตัวเรือนสีดำ ที่มาพร้อมวัสดุไทเทเนียม และสายเหล็กใหม่มาให้ใช้งาน ไม่ได้มีการเปิดตัวรุ่นใหม่แต่อย่างใด
