xs
xsm
sm
md
lg

คึกคักตลาดสำรอง-กู้คืนข้อมูล รายใหญ่ปรับทัพ รับ 4 ปมบี้องค์กร (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


  เจษฏา ภาสวรวิทย์ ผู้จัดการอาวุโส ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ วีม ซอฟต์แวร์
ในนาทีที่ข้อมูลเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่งกว่าน้ำมัน ตลาดซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูลสำหรับองค์กรจึงมีการเปลี่ยนแปลงตามการเติบโตที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดรายงานจากการ์ทเนอร์ (Gartner) พบว่าส่วนแบ่งการตลาดของผู้เล่นในตลาดนี้มีภาวะเกมพลิกชัดเจนตลอดช่วงปี 2023 โดยวีมซอฟต์แวร์ (Veeam) กลายเป็นผู้นำตลาดคนใหม่ แซงหน้าเจ้าตลาดเดิมอย่างเวอริทัส (Veritas) รวมถึงคู่แข่งชื่อคุ้นหูอย่างเดลล์ (Dell) และไอบีเอ็ม (IBM)

ข้อมูลบอกว่าเบอร์หนึ่งอย่าง Veeam มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก 15.1% โกยรายได้เบาๆ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 เติบโต 11.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สถิตินี้ถือว่า Veeam ท็อปฟอร์มเพราะทำได้ดีกว่าตลาดรวมที่เติบโตขึ้น 5.1% ในปี 2023 บนเม็ดเงินรายได้รวมของตลาดที่สะพัดเกือบ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.4 แสนล้านบาท

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนได้ 2 นัยสำคัญ ประเด็นแรกคือการที่ Veeam ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 1 ได้นั้นเป็นเพราะศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ร่วมกับการควบรวม-ซื้อกิจการเพื่อลับคมให้อยู่รอดในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูง โดย Veeam เปิดเผยว่ามีแผนลงทุนต่อเนื่อง และการประกาศปลดพนักงาน 300 คนนั้นเป็นการเปลี่ยนผ่านเพื่อเตรียมรับเข้าใหม่อีก 500 คน เบื้องต้นผู้บริหารยอมรับว่ามีพนักงานในไทยจำนวนน้อยที่ได้รับผลกระทบ

  เดฟ รัสเซล (Dave Russell) รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์องค์กร
อีกประเด็นคือรายได้รวมตลาดมากกว่า 3.4 แสนล้านบาทนั้นไม่ธรรมดา โดย Veeam คาดว่าตลาดปีนี้จะคึกคักขึ้นอีกตามทิศทาง 4 เทรนด์แรงที่กระหน่ำโลกข้อมูลธุรกิจ โดย 1 ใน 4 เทรนด์นั้นคือปริมาณข้อมูลเกิดใหม่ที่สูงขึ้นเป็นเท่าตัวในทุกปี บีบให้ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ข้อมูลองค์กร

***ลดฝ่ายขาย เพิ่มทีมพัฒนา

เดฟ รัสเซล (Dave Russell) รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์องค์กร กล่าวถึงการเลิกจ้างพนักงานของ Veeam ที่ประกาศเมื่อต้นปี 2024 ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานและการสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยและตลาดเอเชียโดยรวม และการปรับเปลี่ยนเหล่านี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของบริษัทในภูมิภาคนี้ โดยย้ำว่าบุคลากรเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของบริษัท ที่ทำให้ Veeam ประสบความสำเร็จ

“เช่นเดียวกับธุรกิจที่ขยายตัวทุกแห่ง เราตรวจสอบตลาดและธุรกิจของเรา และตัดสินใจอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการลงทุนทรัพยากร แม้ว่า Veeam ได้ลดตำแหน่งงานลงบางส่วน แต่มีเพียงไม่กี่ตำแหน่งในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบ และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนพนักงานโดยรวมในปี 2024 เรากำลังลงทุนอย่างต่อเนื่องในการวิจัยและพัฒนาเพื่อเร่งนวัตกรรม”

การปรับโครงสร้างองค์กรของยักษ์ใหญ่อย่าง Veeam นั้นแกนที่การเลิกจ้างพนักงาน 300 คน พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ฝ่ายขาย การตลาด และฝ่ายบริหาร ซึ่งคิดเป็นประมาณ 6% จากฐานพนักงานกว่า 5,000 คนของ Veeam อย่างไรก็ตาม Veeam ประกาศในทันทีว่าวางแผนที่จะจ้างพนักงานใหม่ด้านวิศวกรรมและการพัฒนาเกือบ 500 คนในปี 2024 ทั้งหมดสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงโฟกัสไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบเข้มข้น

Veeam มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลก 15.1% โกยรายได้เบาๆ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023
คำชี้แจงของ Veeam เริ่มที่การเน้นย้ำว่าปี 2023 เป็นปีที่ดีที่สุดของ Veeam แล้วในแง่ของส่วนแบ่งการตลาด การเติบโต และผลกำไร เพียงแต่บริษัทกำลังให้ความสำคัญกับพื้นที่การลงทุนตามวิวัฒนาการของธุรกิจและตลาด ซึ่งพันธมิตรของ Veeam ต่างมองว่าความเคลื่อนไหวเป็นเชิงบวก และอาจเกี่ยวข้องกับ IPO ในอนาคตก็ได้ หลังจากที่ Veeam ถูก Insight Partners เข้าซื้อกิจการในปี 2020 ด้วยมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์

ในขณะที่ Veeam ยืนอันดับ 1 ในตลาด เดฟมองว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Veeam และบริษัทมีความตื่นเต้นมากสำหรับโอกาสที่รออยู่ข้างหน้า โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเพิ่งประกาศการอัปเดตครั้งสำคัญสำหรับสินค้ากลุ่มคลาวด์ “Veeam Data Cloud” ซึ่ง Veeam เน้นปกป้องข้อมูลธุรกิจของลูกค้าด้วยความง่ายดายของซอฟต์แวร์สำหรับให้บริการ

ในอีกด้าน Veeam กำลังลุยทำตลาด Veeam Vault ซึ่งเป็นบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บข้อมูลสำรองอย่างปลอดภัย และอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ผ่านระบบที่เข้ารหัสเสมอ ทำให้การป้องกันเข้มข้นขึ้นสำหรับข้อมูลสำคัญ นอกจากนี้ Veeam ยังเตรียมผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อทำตลาดในปีนี้ รวมถึงการร่วมมือกันนวัตกรรมกับ Microsoft เพื่อนำนวัตกรรม Copilot AI มาสู่ตระกูลผลิตภัณฑ์ Veeam และการเพิ่มพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ใหม่ เช่น Kyndryl และ Sophos


ในด้านการลงทุน เดฟชี้ว่าบริษัทกำลังสำรวจโอกาสในการเข้าซื้อกิจการเพิ่มจากที่ได้ซื้อกิจการหลายแห่งและประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะการเลือกบริษัทที่มอบคุณค่าที่แท้จริงให้ลูกค้า ทั้งหมดนี้ Veeam ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทิศทางของตลาด เชื่อว่า Veeam อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเข้าซื้อกิจการหากเห็นว่าเหมาะสม

***4 เทรนด์บีบองค์กร

เจษฎา ภาสวรวิทย์ ผู้จัดการอาวุโส ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ วีม ซอฟต์แวร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมในประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายจาก 4 เทรนด์สำคัญด้านข้อมูลที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วยการระเบิดของข้อมูลปริมาณมาก โครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน การผูกขาดกับผู้จัดจำหน่าย และการขยายตัวของภัยคุกคามทางไซเบอร์รวมถึงแรนซัมแวร์ที่มีรูปแบบการโจมตีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น

“ปัจจุบัน ธุรกิจในประเทศไทยกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หากข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถใช้งานได้ ธุรกิจต้องหยุดชะงัก ด้วยเหตุนี้องค์กรธุรกิจต่างๆ จึงต้องใส่ใจต่อการปกป้องข้อมูลทั้งที่มีอยู่ในทุกแพลตฟอร์มและทุกช่องทางเทคโนโลยี องค์กรต้องมั่นใจว่าข้อมูลต่างๆ เหล่านี้พร้อมใช้งานเสมอทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ”

ในปี 2567 คาดว่าจะมีปริมาณข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ถึง 150 เซตตะไบต์ หรือ 1 พันล้านเทราไบต์
เจษฎา ประเมินว่าในปี 2567 คาดว่าจะมีปริมาณข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ถึง 150 เซตตะไบต์ หรือ 1 พันล้านเทราไบต์ นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Veeam 2024 Ransomware Trend Report ยังพบว่า 75% ของธุรกิจเคยตกเป็นเหยื่อการโจมตีอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีที่ผ่านมา ขณะที่ 25% ที่เหลือตกเป็นเป้าหมายมากกว่า 4 ครั้งในระยะเวลาเท่ากัน นอกจากนี้ การยอมเสียค่าไถ่ให้อาชญากรไซเบอร์ก็ไม่ใช่สิ่งที่รับประกันว่าจะได้รับข้อมูลทั้งหมดกลับคืนมา โดย 25% ระบุว่าพวกเขาต้องสูญเสียข้อมูลสำคัญไปแม้จะจ่ายค่าไถ่ไปแล้วก็ตาม

สำหรับการเข้ามาของเทคโนโลยี AI ที่มีส่วนในการเสริมสร้างความซับซ้อนให้การโจมตีทางไซเบอร์และนำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรงต่อธุรกิจ ข้อมูลพบว่ากว่า 96% ของการโจมตีทางไซเบอร์เหล่านี้มีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ข้อมูลขององค์กรรวมถึงข้อมูลเป้าหมายที่ถูกสำรองไว้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการในด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐานทางข้อมูล กับการปฏิบัติการต่างๆ ที่ต้องยกระดับความสำคัญให้แข็งแรงกว่าเดิม

ทั้ง 4 เทรนด์นี้จึงตอกย้ำว่า ตลาดซอฟต์แวร์สำรองและกู้คืนข้อมูลสำหรับองค์กรนั้นจะยังเติบโตต่อ และคึกคักไปอีกพักใหญ่ทีเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น