เปิด 2 บทสรุปก่อนนับถอยหลัง 6 กันยายน 2024 กำหนดวันพิจารณาคดีเพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปในคดีต่อต้านการผูกขาดของกูเกิล (Google) สรุปแรกคือคำแก้ต่างที่ Google ใช้ยืนยันความบริสุทธิ์ บนหลักใหญ่ใจความว่า Google สามารถเสนอเครื่องมือค้นหาที่ดีที่สุด และผู้ใช้ยังคงใช้ Google เพราะชื่นชอบ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้ใช้ อีกสรุปคือผลกระทบที่จะเกิดตามมาหลังคำตัดสินของศาลสหรัฐฯ ทั้งการดำเนินธุรกิจของ Google ที่อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบไป รวมถึงวิธีที่ผู้คนจะใช้อินเทอร์เน็ตและค้นหาข้อมูลในอนาคต
***ตัดสินแล้ว Google ผูกขาดเสิร์ชและโฆษณาออนไลน์
ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลาง Amit P. Mehta ตัดสินเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2024 ว่า Google ผูกขาดการค้นหาและโฆษณาออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย โดยจ่ายเงินให้บริษัทอย่าง Apple และ Samsung เป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นบนสมาร์ทโฟนและเว็บเบราว์เซอร์
ศาลพบว่า Google ใช้ความโดดเด่นในตลาดการค้นหาในทางที่ผิด โดยผูกขาดระบบการค้นหาข้อมูลบนสมาร์ทโฟนและเบราว์เซอร์ และการกระทำดังกล่าวถือเป็นการบีบคั้นไม่ให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม แแถมยังทำร้ายผู้บริโภค
ประโยคเด็ดของผู้พิพากษาสหรัฐฯ ระบุว่า Google เป็นผู้ผูกขาด และได้ดำเนินการเพื่อ "รักษาการผูกขาดเอาไว้" คำตัดสินนี้ถือเป็นคำตัดสินทางกฎหมายที่ร้อนแรงที่สุด เมื่อเทียบกับทุกคดีที่ศาลสหรัฐฯ ตัดสินสำหรับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในรอบกว่า 20 ปี และยังถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ด้วย นับตั้งแต่ที่เคยเขย่าโลกไอทีในคดีผูกขาดทางการค้าของไมโครซอฟท์เมื่อช่วงทศวรรษ 1990
คดีความนี้ยื่นฟ้องครั้งแรกในช่วงรัฐบาลทรัมป์ และดำเนินการต่อภายใต้การนำของรัฐบาลไบเดน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากคำตัดสินดังกล่าว คือรูปแบบการดำเนินธุรกิจของ Google ที่อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงนับจากนี้ และจะมีผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตและค้นหาข้อมูลในอนาคตด้วย
***คำตอบสุดมั่นใจจาก Google
คำตอบของ Google ต่อคดีที่ยื่นฟ้องโดยกระทรวงยุติธรรมและอัยการสูงสุดของรัฐ เน้นย้ำว่าข้อตกลงการจัดจำหน่ายระบบ Search ของ Google นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของบริการและความต้องการของผู้บริโภค ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับความพิเศษหรือแนวทางปฏิบัติที่ต่อต้านการแข่งขัน โดยแย้งว่าเบราว์เซอร์และผู้ผลิตอุปกรณ์เลือกที่จะมี Google Search เนื่องจากมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุด และผู้ใช้ยังคงใช้ Google เพราะชื่นชอบ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้ใช้
Google ชี้ว่าผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นได้อย่างง่ายดาย และข้อตกลงของ Google ไม่ได้ทำร้ายการแข่งขัน แต่กลับส่งเสริมการแข่งขันโดยทำให้ผู้คนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ได้ง่ายขึ้น
Google ยังเน้นย้ำว่าปัจจุบันมีวิธีต่างๆ มากขึ้นกว่าที่เคยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูล โดยมีการแข่งขันจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น TikTok, Reddit, Amazon และอื่นๆ ที่สำคัญ ความสำเร็จของ Google ยังขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และการให้บริการที่มีคุณภาพสูงและเป็นมิตรต่อผู้บริโภค
Google ยืนกรานว่าคดีนี้มองข้ามธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและการแข่งขันของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และยืนกรานว่าคดีนี้ควรเน้นที่ประโยชน์ของผู้บริโภคมากกว่าการปกป้องคู่แข่ง
Google มีแผนที่จะอุทธรณ์คำตัดสิน โดยตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นในศาลว่าแนวทางปฏิบัติของ Google นั้นถูกต้องตามกฎหมาย เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และสอดคล้องกับกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของอเมริกาแล้ว
***มองอนาคต อะไรจะตามมา
แม้จะยังไม่มีการตัดสินแนวทางแก้ไข ซึ่งน่าจะมีการกำหนดอย่างเป็นทางการหลังจากกระบวนการอุทธรณ์ สื่ออนาคตคาดว่าผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ คือ Google อาจสูญเสียความสามารถในการดีลหรือทำข้อตกลงกับค่ายอุปกรณ์เป็นกรณีพิเศษ โดยมีความเป็นไปได้ว่า Google อาจถูกสั่งให้ยกเลิกสัญญา และมีข้อจำกัดในการดีลมากขึ้น
ในอีกด้าน คำตัดสินในคดีนี้ยิ่งกระตุ้นให้เกิดคดีต่อต้านการผูกขาดอื่นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น อเมซอน (Amazon) แอปเปิล (Apple) และเมต้า (Meta) โดยอาจทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับตัวเลือกของผู้บริโภค ว่าการที่ Google ครองตลาดได้นั้นเป็นเพราะคุณภาพ หรือการตั้งค่าเริ่มต้นกันแน่
ไม่ว่าคำตัดสินและคดีนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวิธีการกระจาย และการเข้าถึงเครื่องมือค้นหาบนอุปกรณ์ ซึ่งอาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนค้นหาและเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ขนาดไหน แต่ผลกระทบใหญ่ที่สุดย่อมตกอยู่ที่ธุรกิจเครื่องมือค้นหาข้อมูลของ Google และธุรกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งสร้างรายได้ 1.75 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2023 โดยหุ้นของ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ได้ลดลงเกือบ 5% หลังจากคำตัดสิน
ภาวะหุ้นตกนี้เป็นผลจากความเป็นไปได้ของแนวทางแก้ไขที่อาจอยู่ระหว่างการพิจารณา ทั้งการแยกบริษัทออกจากกัน เช่น การแยกเบราว์เซอร์ Chrome หรือระบบปฏิบัติการ Android ออกไป หรือการแยกเครื่องมือสำหรับการแสดงโฆษณาแบบข้อความในการค้นหา นอกจากนี้ ยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงด้านปฏิบัติการ เช่น การบังคับให้ Google เปิดเผยข้อมูลภายในบริษัทให้คู่แข่งได้ทราบ การบังคับให้ยกเลิกดีลที่ทำให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นบนอุปกรณ์ การเพิ่มระบบให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องมือค้นหาได้ง่าย และการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับการเลือกเครื่องมือค้นหา
ทั้งหมดนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในวันที่ 4 กันยายน 2024 ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายสำหรับกระทรวงยุติธรรมและ Google ในการเสนอกระบวนการแก้ไข และวันที่ 6 กันยายน 2024 ซึ่งเป็นกำหนดวันพิจารณาคดีเพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป
ที่สุดแล้ว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ยกย่องคำตัดสินดังกล่าวว่าเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์สำหรับชาวอเมริกัน ซึ่งถือว่ามีความคล้ายคลึงกับคดีต่อต้านการผูกขาดของ Microsoft ในปี 2000 ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการเทคโนโลยี ในอีกด้าน คดีนี้ยังสะท้อนว่าโลกกำลังมองเห็นความสำคัญในการควบคุมดูแลด้านเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อเศรษฐกิจดิจิทัลและประสบการณ์ของผู้ใช้ทางออนไลน์
และเมื่อแนวทางบังคับใช้ถูกประกาศออกมา การแข่งขันของระบบค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต และบริการที่เกี่ยวข้องจะถูกพลิกโฉมไปอีกแน่นอน