การสำรวจล่าสุดพบ 95% ของนักข่าวอินโดนีเซียและไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI อย่างลึกซึ้ง โดยไทยมีอัตราการปรับใช้สูงถึง 95% ด้านสื่อมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยอมรับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI สำหรับการรายงานข่าวมากขึ้น พร้อมเล็งเห็นความสำคัญของการฝึกอบรมเชิงลึก
น.ส.แคธรีน ซิสโวโย ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท วีโร่ ภูมิภาคอาเซียน กล่าวถึงผลการสำรวจเรื่อง "เทคโนโลยี AI และการสื่อสารมวลชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: การสำรวจโอกาส และความท้าทาย" (AI and Journalism in Southeast Asia: A Survey of Opportunities and Challenges) ว่าผลการสำรวจชิ้นนี้จะเป็นตัวกระตุ้นการวิจัยอย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าจะสะท้อนการมีส่วนร่วมเชิงรุกเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในการพัฒนาการทำข่าวและสื่อสารมวลชน
“เราหวังว่าผลการสำรวจชิ้นนี้จะเป็นตัวกระตุ้นการวิจัยอย่างต่อเนื่อง และการมีส่วนร่วมเชิงรุกเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในการพัฒนาการทำข่าวและสื่อสารมวลชน เพื่อให้มั่นใจว่า ผลการสำรวจดังกล่าวจะทำหน้าที่บริการสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในขณะเดียวกันก็เคารพหลักการพื้นฐานของวงการสื่อสารมวลชนด้วยเช่นกัน”
วีโร่ นั้นบริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ และการตลาดดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทมองว่าขณะนี้เป็นเวลาที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวงการสื่อสารมวลชนในภูมิภาค จึงสำรวจเพื่อวิเคราะห์เชิงลึก โดยอิงจากการสำรวจนักข่าว 75 คนในอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม และพบว่า สื่อมวลชนต่างตระหนักถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ AI ในสายงานข่าว และเชื่อว่าการเข้าใจเทคโนโลยีนี้ให้ลึกซึ้งเป็นสิ่งสำคัญ
ผลการสำรวจล่าสุดพบว่า AI กำลังตั้งเกณฑ์ใหม่ในการรวบรวมข่าว การเล่าเรื่อง และการบริโภคข้อมูล โดยนายราฟาเอล ลักคาร์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการของวีโร่ มองว่าอิทธิพลของ AI ต่อการทำข่าวไม่ได้อยู่แค่ในด้านการทำงานเชิงอัตโนมัติ แต่ยังเกี่ยวกับการเพิ่มความแม่นยำ ความเร็ว และความลึกของการรายงานข่าวให้มากยิ่งขึ้น
“ในฐานะที่เราเป็นผู้นำตรงจุดตัดระหว่างการสื่อสารและเทคโนโลยี เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรของเราไม่เพียงแต่ปรับตัวได้ แต่ยังประสบความสำเร็จในยุคที่ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วย AI”
ไฮไลต์การสำรวจนี้คือการยอมรับ AI แบบข้ามพรมแดน โดยในอินโดนีเซียและไทย พบว่า 95% ของนักข่าวมีความเข้าใจเกี่ยวกับ AI อย่างลึกซึ้ง โดยที่ไทยยังแสดงอัตราการปรับใช้สูงถึง 95% ซึ่งสะท้อนถึงการปรับใช้ AI รวมเข้ากับงานข่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับในฟิลิปปินส์ 90% ของนักข่าวคุ้นเคยกับ AI แต่มีเพียง 52% ที่มีการปรับใช้ AI รวมเข้ากับงานข่าว และในเวียดนาม แม้ว่า 78% ของนักข่าวจะคุ้นเคยกับ AI แต่ 100% แสดงท่าทีเชิงบวกต่อการปรับตัวกับผลกระทบของ AI ที่มีต่อการทำงานของนักข่าว
นอกจากนี้ นักข่าวหลายคนยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับ AI รวมถึงการบริหารจัดการ ผลกระทบต่อแรงงาน และปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยเฉพาะในไทยซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพา AI มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้คุณภาพและความเชื่อถือได้ของการทำข่าวลดลง
“ในเวียดนาม ความกระตือรือร้นต่อ AI ถูกให้น้ำหนักมากขึ้นด้วยการให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างเข้มงวด” นายราฟาเอล กล่าวเสริม
การสำรวจพบว่าความจำเป็นในการศึกษา AI ที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญและชัดเจนอย่างมาก นักข่าวทั่วภูมิภาคต้องการทำความเข้าใจความสามารถของ AI อย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของตัวเองในภูมิทัศน์สื่อดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้น วีโร่ได้แนะนำขั้นตอนเพื่อส่งเสริมการปรับใช้ AI อย่างเป็นบวกใน 4 ด้าน ได้แก่ 1.การศึกษา โดยควรพัฒนาและจัดโปรแกรมการฝึกอบรมที่เหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกในการปรับใช้ AI เข้ากับการทำข่าว 2.การยอมรับ ควรแก้ไขข้อกังวลของนักข่าวที่มีประสบการณ์และอาวุโส เกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อความมั่นคงในการทำงาน ลิขสิทธิ์ และจรรยาบรรณของการทำข่าว
3.ความโปร่งใส โดยนักข่าวควรสื่อสารถึงฟังก์ชันและข้อจำกัดของเครื่องมือ AI อย่างชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และจัดการความคาดหวังได้อย่างตรงจุด และ 4.ความรับผิดชอบ ด้วยการรักษาระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งเพื่อจัดการกับความท้าทายใดๆ ที่เกิดจากเครื่องมือ AI เพื่อให้แน่ใจว่ามีความรับผิดชอบและการใช้งานอย่างมีจริยธรรม