xs
xsm
sm
md
lg

inDrive มั่นใจ ride-hailing ไทยโตต่อ ท่องเที่ยวฟื้นดันตลาดแอปเรียกรถสดใสปี 67-68

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อินไดร์ฟ (inDrive) เผยมุมมองตลาด ride-hailing ในไทยช่วงครึ่งหลังปีนี้-ต้นปีหน้า คาดเติบโตต่อเนื่องยาวเพราะเศรษฐกิจยังฟื้นและการท่องเที่ยวกำลังกลับมาเป็นปกติ ชี้ทิศทางการแข่งขันในตลาดมีคู่แข่งเยอะแต่เปลี่ยนแปลงไป เล็งขยายบริการเพิ่มนอกกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยาที่ให้บริการอยู่แล้ว

แอนดรีส สมิท (Andries Smit) รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจใหม่ (VP New Ventures) บริษัท อินไดร์ฟ ประเมินตลาดเรียกรถในประเทศไทย (ride-hailing service) ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ถึงครึ่งปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวและการท่องเที่ยวกำลังกลับมาเป็นปกติ โดยยอมรับว่าในตลาดมีคู่แข่งจำนวนมากแต่ได้เปลี่ยนแปลงไป โดยมีทั้งรถแท็กซี่แบบดั้งเดิม บริษัทเกิดใหม่ และบริษัทที่มีอยู่แล้วต่างก็แข่งขันกันเพื่อส่วนแบ่งตลาด

"เราคาดว่าจะมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริการการขนส่งที่สะดวกสบายและน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การขยายตัวของเมือง (urbanization) และการแปลงเป็นทางดิจิทัล (digitalization) ในประเทศไทยก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้คนไทยใช้บริการเรียกรถมากขึ้น"

 แอนดรีส สมิท (Andries Smit) รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจใหม่ (VP New Ventures) บริษัท อินไดร์ฟ
inDrive นั้นเป็นบริษัทผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารและรถรับจ้างแบบเรียลไทม์ (ride-hailing service) ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 และเติบโตจนมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันแอปพลิเคชัน inDrive ให้บริการเรียกรถในกว่า 46 ประเทศทั่วโลก และมียอดดาวน์โหลดผ่านกูเกิลสโตร์และแอปเปิลสโตร์รวมกันมากถึง 250 ล้านครั้งทั่วโลก

เพื่อแข่งขันในตลาดไทย บริษัทเชื่อว่าความโดดเด่นเรื่องโมเดลธุรกิจแบบ peer-to-peer (การเชื่อมโยงระหว่าง 2 ฝ่าย) ซึ่งแพลตฟอร์มของ inDrive มีบริการเรียกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยผู้โดยสารสามารถเลือกคนขับตามความชอบ เช่น คะแนนรีวิว รุ่นของรถ และเวลาที่จะมาถึง ความยืดหยุ่นและแนวทางที่เน้นผู้ใช้นี้เป็นสิ่งที่เชื่อว่าจะทำให้แตกต่างจากคู่แข่งที่มีโครงสร้างที่เข้มงวดมากกว่า


สำหรับตลาดไทย บริษัทเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2566 หลังจากได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก โดยในช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทระบุว่าเห็นการเติบโตอย่างมากในตลาดไทย โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งผู้ใช้และผู้ขับขี่ที่ลงทะเบียนใหม่

"ปัจจุบันอินไดร์ฟให้บริการในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และพัทยา และเรามีแผนที่จะขยายไปยังเมืองอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งการได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกช่วยเสริมโอกาสในการเติบโตของเรา เมื่อมองไปข้างหน้า เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี (technology infrastructure) เพื่อเป็นการขยายบริการของเรา และเพื่อขยายตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย"


เมื่อถามถึงทิศทางพัฒนาการของตลาด ride-hailing ระดับภูมิภาค การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ ลดความท้าทายในธุรกิจได้อย่างไร ผู้บริหาร inDrive มองว่าเทคโนโลยี AI สามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพในหลายๆ ด้านของธุรกิจเรียกรถได้อย่างมาก สำหรับอินไดร์ฟนั้น AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนเส้นทาง ลดเวลารอ และปรับปรุงความแม่นยำในการจับคู่ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

"นอกจากนี้ การวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและความชอบของผู้ใช้ ทำให้เราสามารถให้บริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ที่สำคัญ AI ยังสามารถช่วยเรื่องความปลอดภัย เช่น การตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และคาดการณ์การบำรุงรักษาสำหรับยานพาหนะ" แอนดรีส ทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น