xs
xsm
sm
md
lg

จับจุดเด่น Samsung Galaxy Z Fold 6 - Z Flip 6 (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Samsung พยายามที่จะรักษากระแสของ Galaxy AI ให้ใช้งานกันต่อเนื่อง ในการเปิดตัว Samsung Galaxy Z Fold 6 และ Galaxy Z Flip 6 ที่เป็นสมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ ซึ่งในรอบนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่อง เมื่อรวมกับความสามารถของ Galaxy AI ยิ่งทำให้มือถือจอพับ 2 รุ่นใหม่นี้น่าใช้งานมากขึ้น

ส่วนใครที่ใช้งานสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นก่อนหน้าทั้ง Galaxy S24 ซีรีส์ รวมถึง Galaxy Z Fold 5 และ Flip 5 คาดว่าจะได้รับการอัปเกรด Galaxy AI ให้เก่งขึ้นตามมาในเร็วๆ นี้ เหมือนกับช่วงที่ Galaxy S24 ซีรีส์ เปิดตัว ภายใน 3 เดือนให้หลังแฟลกชิปรุ่นก่อนๆ ก็ใช้งานฟีเจอร์ Galaxy AI กันได้

1.ปรับดีไซน์ Z Fold 6 - Z Flip 6


การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ Samsung Galaxy Z Fold 6 และ Z Flip 5 อยู่ที่การปรับดีไซน์ตัวเครื่องใหม่ให้มีขอบเหลี่ยมมากขึ้น ใกล้เคียงกับ Galaxy S24 Ultra ที่วางจำหน่ายออกมาก่อนหน้านี้ และช่วยให้รู้สึกได้ว่าตัวเครื่องปิดเรียบสนิทมากกว่าเดิม

ใน Z Fold 6 จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆ อีกส่วนคือน้ำหนักตัวเครื่องจาก Z Fold 5 อยู่ที่ 253 กรัม แต่รุ่นใหม่นี้ลงมาเหลือ 239 กรัม ใกล้เคียงกับ S24 Ultra ที่ 233 กรัม แสดงให้เห็นแล้วว่าสมาร์ทโฟนจอพับไม่ได้ต้องมีน้ำหนักมากอีกต่อไป

ขณะที่วัสดุของตัวเครื่องยังคงใช้เป็น Armor Aluminum ที่บริเวณขอบเครื่อง ส่วนกระจกหน้า และฝาหลังจะใช้เป็น Gorilla Glass Victus 2 พร้อมกับปรับบานพับ (Hinge) ให้มีความแข็งแรงมากขึ้นด้วย

บริเวณกล้องหลังจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกจุดคือเพิ่มตัดสีขอบกล้องมาให้มีความสวยงามมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Fold 5 จะเป็นขอบเงินๆ แต่ใน Z Fold 6 จะตัดสีดำให้โดดเด่นขึ้นมา

ส่วน Z Flip 6 น้ำหนักของเครื่องจะใกล้เคียงเดิม รวมๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงแค่ขอบตัวเครื่องที่เป็นจุดสัมผัสเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภายในที่ช่วยให้การใช้งานภาพรวมดีขึ้น

2.กล้องเด็ดขึ้น


ใน Galaxy Z Flip 6 จะมีการปรับคุณภาพของกล้องหลักให้ดีขึ้น จากเดิมใน Flip 5 12 ล้านพิกเซล ขยับขึ้นมาเป็น 50 ล้านพิกเซล ส่วนเลนส์มุมกว้างยังคง 12 ล้านพิกเซล และเลนส์เซลฟี่ 10 ล้านพิกเซลเช่นเดิม แต่มีการใช้ระบบประมวลผลภาพรุ่นใหม่ที่เรียกว่า DCG หรือ Double Conversion Gain มาช่วยให้ภาพที่ได้สว่าง และคมชัดมากขึ้น

ขณะที่ Galaxy Z Fold 6 จะได้กล้องความละเอียดเท่าเดิมที่ 50 ล้านพิกเซล มีการนำทั้ง DCG และ DSG (Dual Slope Gain) มาใช้ในการเก็บภาพ HDR ที่มีความต่างของแสงในภาพสูง ด้วยการนำภาพที่สว่าง และมืดที่สุดมาประมวลผลร่วมกันที่ตัวเซ็นเซอร์

ความโดดเด่นของเรื่องกล้องยังไม่หมดแค่ที่ฮาร์ดแวร์ เพราะ Samsung มีการนำ AI เข้ามาช่วยประมวลผลเพิ่มเติม ทั้ง AI Zoom ที่มาช่วยให้ Flip 6 สามารถถ่ายภาพระยะเลนส์เทเลโฟโต้ 4x ได้จากเลนส์หลัก หรือ AI Auto Zoom ที่จะปรับระยะภาพเวลาถ่ายใน Flip Mode เพื่อช่วยให้บุคคลอยู่ในอัตราส่วนภาพที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นพิเศษอย่าง Portrait Studio ในการสร้างภาพวาด-ตัวการ์ตูนขึ้นมาจากภาพถ่ายบุคคล มีให้เลือกด้วยกัน 4 รูปแบบ ซึ่งทั้งหมดเป็นการทำงานของซอฟต์แวร์ประมวลผลในตัวเครื่อง

3.Galaxy AI เติมวัตถุให้ภาพ ช่วยเขียนเนื้อหา


สำหรับฟีเจอร์ของ Galaxy AI ที่ปรับปรุงขึ้นมาใน One UI 6.1.1 และเปิดให้ใช้งานพร้อมกับการเปิดตัว Galaxy Z Flip 6 และ Z Fold 6 หลักๆ แล้วจะเป็น AI ที่ช่วยสร้างสรรค์ผลงานเพิ่มเติมทั้งในส่วนของการตกแต่งรูปภาพ และการสื่อสารผ่านตัวอักษร

เริ่มกันจากการแต่งภาพด้วยฟีเจอร์ Sketch to Image เปิดให้เราสามารถวาดภาพลายเส้นวัตถุต่างๆ ที่ต้องการเติมลงไปในรูป และจะมี Galaxy AI มาช่วย Gen วัตถุต่างๆ ขึ้นมา พร้อมเปิดให้เลือกซีนที่เหมาะสมได้ ถือว่าเป็นการอัปเกรดจากความสามารถในการลบคน หรือวัตถุจาก Galaxy AI รุ่นก่อนหน้า

ขณะที่ในส่วนของการเขียน การเพิ่มฟีเจอร์ Composer ขึ้นมาช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนคำสั่งคร่าวๆ เกี่ยวกับเนื้อหาที่ต้องการ Galaxy AI ก็จะทำการร่างข้อความขึ้นมาให้สามารถนำไปปรับแต่งเพื่อใช้งานต่อได้ทันที ซึ่งยังสามารถเลือกได้ว่าจะนำไปใช้กับช่องทางไหน และโทนของเนื้อหาจะเป็นอย่างไร

ที่สำคัญคือ Composer รองรับการใช้งานทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย โดยทางซัมซุงได้มีการจ้างทีมงานเฉพาะมาช่วยเทรนด์ให้ Galaxy AI รองรับภาษาไทยได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย


พร้อมกันนี้ ยังเพิ่มรูปแบบการใช้งานโหมดแปลภาษา Interpreter ให้ใช้งานร่วมกับหน้าจอภายนอก ช่วยให้เวลาสื่อสารกับต่างชาติสามารถเปิดจอนอกให้คู่สนทนาเห็นข้อมูลได้ทันที ไม่ต้องคอยแบ่งครึ่งหน้าจอสนทนาเหมือนใน Galaxy S24 ซีรีส์อีกต่อไป

4.เพิ่มแบตให้ Flip 6 จอสว่างขึ้นทั้งคู่


การเปลี่ยนแปลงภายในอีกอย่างที่อาจจะไม่เห็นจากภายนอกคือเรื่องของแบตเตอรี่ที่ Galaxy Z Flip 6 ในรุ่นใหม่นี้เพิ่มแบตเตอรี่ขึ้นมาเป็น 4,000 mAh จากรุ่นก่อนหน้าอยู่ที่ 3,700 mAh ช่วยยืดระยะเวลาในการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ส่วน Galaxy Z Fold 6 ได้แบตเตอรี่เท่าเดิม 4,400 mAh

แต่เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นได้หน่วยประมวลผลรุ่นท็อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ที่ช่วยจัดการพลังงานได้ดีขึ้น ทำให้แม้ว่าใน Fold 6 จะให้แบตเท่าเดิม แต่ระยะเวลาการใช้งานก็จะยาวนานขึ้นเช่นเดียวกัน

อีกจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงคือความสว่างหน้าจอสูงสุดของทั้ง Flip 6 และ Fold 6 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1750 nits มาเป็น 2600 nits เช่นเดียวกับใน Galaxy S24 Ultra ทำให้ทั้งจอนอก 6.3 นิ้ว และจอใน 7.6 นิ้ว ของ Fold 6 ได้ความสว่างเพิ่มขึ้น และยังรองรับ Adaptive Refresh Rate ที่ 1-120 Hz เช่นเดิม

ส่วนขนาดหน้าจอของ Samsung Galaxy Z Flip 6 จะอยู่ที่ 6.7 นิ้ว และจอภายนอกอยู่ที่ 3.4 นิ้ว ซึ่งมีการเพิ่ม Interactive Wallpaper มาให้ใช้งานร่วมด้วย เพราะจากผลสำรวจกลุ่มผู้ใช้งาน Galaxy Flip นิยมที่จะปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลังให้เข้ากับสไตล์การใช้งาน และแต่งตัว

5.สี และรุ่นที่วางจำหน่าย


Galaxy Z Flip 6 ในรอบนี้มีให้เลือกด้วยกัน 4 สีหลัก คือ เงิน Silver Shadow เหลือง Yellow น้ำเงิน Blue และเขียว Mint โดยมีสีพิเศษเมื่อสั่งผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มเติมอีก 3 สี ดำ Crafted Black ขาว White และส้ม Peach

Galaxy Z Fold 6 มีให้เลือก 3 สี หลักคือ เงิน Silver Shadow ชมพู Pink และน้ำเงิน Navy โดยมีสีพิเศษ 2 สี คือ ดำ และขาว White

ทั้งคู่จะวางจำหน่ายในรุ่นที่มากับ RAM 12 GB เพียงแต่ใน Flip 6 จะมีพื้นที่เก็บข้อมูลให้เลือกระหว่าง 256 GB และ 512 GB ราคาเริ่มต้น 42,900 บาท ขณะที่ Fold 6 จะมีทั้ง 256 GB 512 GB และ 1 TB ราคาเริ่มต้น 63,900 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น