มนุษยชาติเหลือเวลาอีกแค่ 5 ปี ในการจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศา ก่อนที่จะเข้าสู่วิกฤตฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม หายนะครั้งใหญ่ของระบบนิเวศ ที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้ “โลกเดือด” จึงเป็นเรื่องของทุกคน
ทรู คอร์ปอเรชั่น ชวนส่องเส้นทางสู่ Net Zero นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโครงข่าย และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการดำเนินธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน เนื่องในวัน World Environment Day 2024
1.เพิ่มการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่เสาสัญญาณ 7,800 แห่ง และดาต้าเซ็นเตอร์ 1 แห่ง
• ประหยัดพลังงานไฟฟ้า 45,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี
• ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
2.ใช้ AI และ Machine Learning เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่าย และลดการใช้พลังงาน
• ลดการใช้พลังงานได้สูงสุด 15% ต่อเสาสัญญาณ ด้วยโซลูชัน AI ที่เป็นสิทธิบัตรของทรู
3.ยกระดับเครือข่ายให้ล้ำสมัย (Network Modernization) อัปเกรดเสาสัญญาณทั่วประเทศ
• ประหยัดพลังงานไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี
• ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4,400 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี
4.ประเมินความเสี่ยงพื้นที่ติดตั้งเสาสัญญาณ* ที่มีโอกาสสร้างผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งเป็น 1 ใน 3 วิกฤตฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อม
*โปรแกรมมาตรฐานระดับโลก Biodiversity and Ecosystem Services Trends and Conditions Assessment Tool (BESTCAT)
5.100% รีไซเคิล ไม่มีการฝังกลบขยะ e-Waste ที่รวบรวมได้จากการดำเนินธุรกิจและผู้บริโภค
• 1.99% ล้านชิ้น รีไซเคิลขยะ e-Waste จากลูกค้า 100% ไม่มีการฝังกลบ
• 39% ลดการนำน้ำมาใช้ต่อรายได้
ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น องค์กรอันดับ 1 ความยั่งยืน DJSI สูงสุดของโลกในทุกอุตสาหกรรมจาก S&P Global
True Blog : https://bit.ly/3yMVgYE
#WorldEnvironmentDay #วันสิ่งแวดล้อมโลก #TrueSustainability