รมว.ดีอี ลุยเอง! นำทีมตำรวจไซเบอร์บุกรวบเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ หลอกผู้เสียหายลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ยึดเงินสด รถยนต์ นาฬิกาหรู กระเป๋าแบรนเนมด์ มูลค่ากว่า 220 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 31 พ.ค.67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ร่วมกับ สอท. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดปฏิบัติการ The Purge EP.2 เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายทั้งหมด 7 จุดในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดระยอง เพื่อขยายผลต่อเนื่องกรณีกลุ่มอาชญากรออนไลน์ข้ามชาติในคดีหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล (Hybrid Scam) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดทรัพย์เครือข่ายกว่า 220 ล้านบาท เครือข่ายอาชญากรข้ามชาติดังกล่าวใช้วิธีชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุนสกุลเงินดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มปลอม โดยให้ผู้เสียหายซื้อเงินสกุล USDT และโอนไปตามเลขกระเป๋าเงินดิจิทัลตามที่คนร้ายระบุ ก่อนที่จะถูกโอนเข้าบัญชีของแพลตฟอร์มเทรดเงินดิจิทัล แล้วนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินต่างๆ ซึ่งถือเป็นวิธีการฟอกเงินรูปแบบหนึ่ง
จากปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารบัญชีเงินที่ได้จากการกระทำความผิด และนำเงินดังกล่าวมาฟอกแปรสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และทรัพย์สินมีค่า โดยสามารถยึดอายัดบ้านและคอนโดฯ หรูที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายดังกล่าวได้ พร้อมกับการอายัดบัญชีธนาคารผู้ต้องหา และบริษัทที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สิน ได้แก่ เงินสด รถยนต์หรู 3 คัน นาฬิกาหรูกว่า 10 เรือน กระเป๋าแบรนเนมด์ โทรศัพท์มือถือ ได้หลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 220 ล้านบาท
"นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ผ่านปฏิบัติการ The Purge EP.2 โดยเน้นขยายผลจากปฏิบัติการรอบแรกในเดือน เม.ย.67 ซึ่งสามารถจับกุมเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติได้สำเร็จ กลุ่มนี้ใช้วิธีหลอกลวงให้ผู้คนลงทุนและฟอกเงินผ่านการซื้อทรัพย์สินต่างๆ เช่น บ้าน รถยนต์หรู และสินค้ามีค่า การติดตามเส้นทางการเงินล่าสุดพบว่า มีการใช้บัญชีม้าของชาวต่างชาติและมีการหมุนเวียนเงินเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลที่จะกำจัดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง" นายประเสริฐ กล่าว
