เบนโค่ (Benco) รีแบรนด์บุกตลาดไทยรอบใหม่ หลังก่อนหน้านี้ทำตลาดผ่านแบรนด์ Lava หวังชิงแชร์ 2.5% ในสิ้นปีนี้ ดึงกลยุทธ์ป่าล้อมเมืองทำตลาดด้วยการขยายหน้าร้าน 2,000 แห่งในสิ้นปีนี้ เพื่อเจาะตลาดมือถือราคา 2,000-7,000 บาท ภายใต้งบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท มั่นใจราคาแข่งขันได้ในทุกรุ่น
แจ็กกี้ หวง ผู้ก่อตั้งอินวัน เทคโนโลยี ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Benco กล่าวว่า ตลาดมือถือในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตจากสัดส่วนการใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วประเทศที่ยังมีช่องว่างให้เติบโต เช่นเดียวกับการที่ผู้ใช้งานเปลี่ยนจากการใช้งาน 4G เป็น 5G ทำให้มั่นใจว่าจะเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้
“Benco สร้างความต่างด้วยการให้มูลค่าเพิ่มแก่ผู้ใช้ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 10,000 บาท ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นให้ความสำคัญใน 3 ส่วนด้วยกันคือ คุณภาพ ลักษณะการใช้งานเฉพาะบุคคล และความสนุกสนาน ในราคาที่จับต้องได้”
ก่อนหน้านี้ INONE Technology เข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยภายใต้แบรนด์ Lava ที่ทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์ในการจำหน่ายสมาร์ทโฟน แต่หลังจากนี้จะรีแบรนด์เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคด้วยแบรนด์ Benco
รอย หวัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนโค่ ประเทศไทย กล่าวถึงเป้าหมายในการทำตลาดของ Benco คือการชิงส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคา 2,000-7,000 บาท ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ราว 56% ของตลาดรวมมือถือราว 10-13 ล้านเครื่อง และในกลุ่มนี้มีผู้เล่นหลักอยู่ราว 6 แบรนด์
เบื้องต้น Benco ตั้งเป้าหมายที่จะจำหน่ายสมาร์ทโฟน 300,000 เครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดราว 2.5% คิดเป็นรายได้ราว 1,000 ล้านบาท จากประสบการณ์ที่เข้ามาทำตลาดในไทยกว่า 10 ปี พร้อมขยายหน้าร้านเป็น 2,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 3,000 แห่งในปีหน้า
ชัยรัตน์ เศารยะโศภิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนโค่ ประเทศไทย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า จุดแข็งของ Benco คือการให้ระยะเวลารับประกันถึง 24 เดือน โดยมีบริการตรวจเช็กฟรี ส่งซ่อมฟรี และยังมีการรับประกันแบบ DOA ในกรณีที่ตัวเครื่องมีปัญหาสามารถนำมาเปลี่ยนคืนได้ในระยะเวลา 14 วัน จากปกติทั่วไปรับประกันเพียง 7 วัน
พร้อมกันนี้ ได้มีการเปิดตัว benco S1 Plus สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6.8 นิ้ว 90 Hz ทำงานบนชิป Unisoc T616 พื้นที่เก็บข้อมูล 256 GB แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W กล้อง 48 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ในราคา 5,599 บาท
ส่วนแผนการนำเข้าสมาร์ทโฟนในช่วงปลายปีนี้ นอกจากรุ่นที่รองรับ 4G ที่ทำราคามาแข่งขันแล้ว ยังเตรียมนำสมาร์ทโฟน 5G เข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ในระดับราคาต่ำกว่า 7,000 บาท และมีโอกาสขยายไลน์อัปไปยังสมาร์ทโฟนจอโค้ง สเปกดีราคาหมื่นต้นๆ ในช่วงต้นปี 2568
