เอปสัน ประเทศไทย (Epson) ซุ่มเงียบ 2 ปีเทงบ 7 หลักเปิดตัว “อีโคฟลีท แมเนจเมนต์” (EcoFleet Management) การันตีเป็นซอฟต์แวร์จัดการเครือข่ายเครื่องพิมพ์ที่อำนวยความสะดวกให้คู่ค้าพาร์ตเนอร์ Office Automation ลดต้นทุนดูแลลูกค้าที่ตั้งพรินเตอร์หลายสาขา มั่นใจค่าใช้จ่ายเริ่ม 200 บาทต่อปีต่อเครื่องคุ้มค่ากับการประหยัดค่าช่าง-ค่ารถ-ค่าน้ำมันที่ต้องเสียไปกับการส่งพนักงานวิ่งไปดูแลเครื่องที่หัวเมืองหลัก-รอง วางเป้าใหญ่ดันส่วนแบ่งเอปสันโตหลังตลาดรวมเครื่องพิมพ์ธุรกิจทั่วไทยหดตัวเบาๆ 790,000 เครื่อง
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าตลาดรวมเครื่องพิมพ์ธุรกิจทั่วไทยปี 2023 ที่ผ่านมาอยู่ในภาวะทรงตัว โดยจำนวนยอดขายลดลงเล็กน้อย 2% เมื่อเทียบกับปี 2022 เนื่องจากสถานะเศรษฐกิจไทยที่ไม่มีภาวะบวกชัดเจน ทำให้ยอดขายรวมเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจในประเทศมีจำนวนรวม 790,000 เครื่อง แต่สิ่งที่น่าสนใจคือธุรกิจขนาดกลางและเล็กของไทยมีการใช้งานมากขึ้น ดังนั้นเพื่อคว้าโอกาสในกลุ่มเอสเอ็มอีที่เอปสันมองว่าจะเร่งขยายฐานเพื่อให้ส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจของบริษัทเติบโต บริษัทจึงเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อเสริมการทำงาน ให้พันธมิตรที่ดูแลลูกค้า SME สามารถจัดการเครื่องพิมพ์ธุรกิจได้ในต้นทุนที่ต่ำลง
“เอปสันไม่เคยฝังบริการลักษณะนี้ ไม่เคยทำบริการที่ครบทั้งต้นน้ำและปลายน้ำกับสินค้ากลุ่มบิสสิเนสอิงค์เจ็ท เป็นครั้งแรกที่ทำ และเอปสันประเทศไทยเป็นผู้เริ่ม เราเชื่อว่าจะช่วยทำตลาดอิงค์เจ็ทในกลุ่มเอสเอ็มอี คาดว่าปีนี้อิงค์เจทจะโตไม่น้อยกว่า 25% เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจว่าจะดันเซกเมนต์เครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจจาก 42% เป็น 45% ให้ได้”
บริการที่ยรรยง กล่าวถึงคือซอฟต์แวร์ใหม่ EcoFleet Management สำหรับพาร์ตเนอร์ Office Automation โดยที่ผ่านมา ลูกค้าองค์กรที่ใช้เครื่องพิมพ์ของเอปสันจะได้ใช้ชุดซอฟต์แวร์ ESS (Epson Solution Suite) อยู่แล้ว ซึ่งเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์แบบไร้รอยต่อที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเครื่องพิมพ์ โดยจะมี 3 ฟังก์ชัน ได้แก่ การจัดการงานพิมพ์ (Print Management) และจัดการเอกสาร (Document Management) สำหรับองค์กรลูกค้า และฟังก์ชันจัดการเครื่องพิมพ์ (Fleet Management) สำหรับพาร์ตเนอร์ Office Automation แต่กับซอฟต์แวร์ใหม่ EcoFleet Management ที่เอปสันประเทศไทยพัฒนาขึ้นมา จะช่วยเสริมการทำงานในส่วนฟังก์ชันจัดการเครื่องพิมพ์ ทำให้ชุดซอฟต์แวร์ ESS เดิมของเอปสันมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และแตกต่างจากซอฟต์แวร์ประเภทเดียวกันของคู่แข่งในตลาด
เอปสัน ประเทศไทยระบุว่า ใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนา EcoFleet Management เริ่มจากการศึกษาปัญหาที่กลุ่มผู้ให้บริการเช่าเครื่องอย่าง Office Automation ต้องเผชิญ ซึ่งมีด้วยกัน 4 ด้าน ได้แก่ เรื่องการบริหารจัดการสัญญาเช่าที่ยังไม่ค่อยมีการทำและจัดเก็บแบบดิจิทัล ทำให้ค้นหาได้ยาก เรื่องการออกให้บริการตรวจอาการผิดปกติของเครื่องพิมพ์และปริมาณหมึก ที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจที่สำนักงานของลูกค้า ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้กำลังคน กินเวลาและค่าใช้จ่าย ด้านการออกใบแจ้งหนี้ ซึ่งปัจจุบันยังใช้วิธีส่งเจ้าหน้าที่ออกไปจดมิเตอร์จากตัวเครื่องของลูกค้า เพื่อนำข้อมูลกลับมาคำนวณก่อนออกใบแจ้งหนี้ และเรื่องการทำรายงานประวัติการพิมพ์ของลูกค้าแต่ละรายที่ยังเป็นการทำแบบแมนนวล กินใช้เวลาและมีโอกาสผิดพลาดในการกรอกข้อมูล
EcoFleet Mangement จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยเอปสันได้ออกแบบการทำงานของซอฟต์แวร์เป็น 4 โมดูล ได้แก่ 1) ฟังก์ชันการจัดเก็บข้อมูลบัญชีรายชื่อลูกค้า รายการเครื่องพิมพ์ และสัญญาเช่าของลูกค้าแต่ละรายแบบรวมศูนย์ (Centralized) ช่วยในการค้นหาและนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว 2) ฟังก์ชันมอนิเตอร์การทำงานของเครื่องพิมพ์และปริมาณหมึกแบบเรียลไทม์ ที่ทำให้เจ้าหน้าที่รู้ล่วงหน้าถึงปัญหาและสามารถเข้าแก้ไขได้ทันที หรือนำชุดหมึกเข้าไปเติมให้ลูกค้าตามพฤติกรรมการใช้งานจริงของลูกค้าแต่ละราย 3) ฟังก์ชันการออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติเมื่อถึงกำหนดของลูกค้าแต่ละราย และ 4) ฟังก์ชันการออกรายงานในรูปแบบกราฟิก เพื่อประเมินสุขภาพและความเสี่ยงของธุรกิจจากรายได้และการเก็บเงินตามสัญญาแต่ละฉบับ
นอกจาก 4 โมดูลนี้ ในอนาคตบริษัทจะพัฒนาฟังก์ชันใหม่เพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้พาร์ตเนอร์เอปสันได้มากยิ่งขึ้น เช่น การแจ้งเตือนอาการของเครื่องพิมพ์ผ่าน LINE เป็นต้น ในส่วนของแพกเกจการใช้งาน EcoFleet Management จะคิดเป็นระบบสมาชิกรายปี (Subscription License) ราคาราว 200-800 บาทต่อเครื่องต่อปี
ไม่เพียง EcoFleet Mangement เอปสันยังอัดฉีดตลาดเครื่องพิมพ์เพื่อธุรกิจด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเพื่อธุรกิจเพิ่มอีก 2 รุ่น จนทำให้เอปสันมีจำนวนรุ่นมากที่สุดในตลาด ขณะเดียวกัน ก็จัดแพกเกจให้บริการเช่าเครื่องที่ตอบรับเทรนด์ตลาดที่กำลังขยายตัว คาดว่าจะกระตุ้นตลาดให้มีการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
