‘ฐากร’ ปูดข้อมูลพิรุธหลายกระทรวง เผย ‘มิสเตอร์ดับเบิลที’ พัวพันจัดซื้อจัดจ้างใน ‘ดีอี’ ระบุเรียกรับผลประโยชน์ 30% บางโครงการแค่ 10 กว่าล้านยังไม่พ้นสายตาเสือหิว เล็งอภิปรายในวาระพิจารณางบปี 68 ระหว่าง 5-6 มิ.ย.ที่จะถึงนี้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ปราบโกงพรรคไทยสร้างไทยได้รับข้อมูลจากประชาชนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง กรณีความไม่ชอบมาพากลในการประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการต่างๆ ในหลายกระทรวง โดยเฉพาะ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) มีข้อมูลส่งมาเป็นจำนวนมาก
นายฐากร กล่าวว่า ดีอีมีหน่วยงานที่อยู่ในสังกัด เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กระทรวงดีอีได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2567 เป็นจำนวน 5,347 ล้านบาท หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) จำนวน 1,586 ล้านบาท และกรมอุตุนิยมวิทยา จำนวน 1,348 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรัฐวิสาหกิจอีก 2 แห่ง ที่ดีอีกำกับดูแล ได้แก่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) มีรายได้ปีละกว่า 8 หมื่นล้านบาท และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เมื่อปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท
นายฐากร กล่าวว่า ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ได้อภิปรายในโครงการจัดซื้อจัดจ้างของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่มีบริษัท 6 บริษัท หมุนเวียนเข้าประมูลเสนอแข่งราคาไขว้กัน และคว้างานประมูลของกรมอุตุนิยมวิทยาแทบทุกโครงการ ปรากฏว่าหลังอภิปรายไปแล้วมีประชาชนส่งข้อมูลความไม่โปร่งใสในกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานอื่นๆ มาให้จำนวนมาก
ทั้งนี้ ข้อมูลความไม่โปร่งใสที่ได้จากประชาชน เมื่อนำไปตรวจสอบพบความผิดปกติในหลายโครงการ เช่น โครงการติดตั้งเรด้าร์ตรวจอากาศชนิดเอส-แบนด์ (S-Band) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่า 350 ล้านบาท พบว่า ใช้งานได้ไม่นานอุปกรณ์เสื่อมสภาพและหมดอายุประกัน กรมอุตุนิยมวิทยาต้องจัดงบประมาณซ่อมบำรุงเพิ่มอีกกว่า 60 ล้านบาท รวมทั้งการจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจวัดสภาพอากาศ ซึ่งมีราคาแพงกว่าปกติ นำไปติดตั้งในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น ติดตั้งในป่า มีต้นไม้บังทิศทางลม ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ อีกหลายๆ หน่วยงานที่กระทรวงดีอีกำกับดูแล เปิดให้มีการประมูลจัดซื้อจัดจ้างเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน คนใกล้ชิดของรัฐมนตรีเข้าไปพัวพันในการจัดซื้อและประมูลงาน ซึ่งประชาชนที่ร้องเรียนระบุชื่อตำแหน่งแต่จะขอเรียกย่อๆ ว่า ‘มิสเตอร์ดับเบิลที’ บุคคลทั้งสองเสนอเรียกรับผลประโยชน์จากผู้รับเหมาในบางโครงการมากถึง 30% ซึ่งบางโครงการมูลค่าแค่ 10 กว่าล้านบาท ก็ยังขอส่วนแบ่งผลประโยชน์
"‘ผมมั่นใจว่า ประเสริฐ จันทร์รวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ของมิสเตอร์ดับเบิลทีอย่างแน่นอน แต่จะขอให้รัฐมนตรีเข้าไปตรวจสอบข้อกล่าวหา ซึ่งกำลังเป็นเรื่องอื้อฉาวในกระทรวงดีอี"
นายฐากร ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย น่าจะบริหารประเทศด้วยความสุจริตโปร่งใสตรวจสอบได้ แต่เมื่อได้รับข้อมูลที่ผู้หวังดีส่งมาพบว่า ในหลายกระทรวงกลับมีการประมูลจัดซื้อจัดจ้างที่น่าสงสัยให้เชื่อได้ว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์มากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วๆ มา
ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้รับมาจะตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้ได้หลักฐานชัดเจนแน่นหนามากขึ้น และจะนำข้อมูลดังกล่าวอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระที่ 1 ในวันที่ 5-6 มิ.ย.67 ที่จะถึงนี้
นายฐากร กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านหารือร่วมกันว่าในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรปีที่ 2 สมัยที่ 1 ระหว่าง 3 ก.ค.-30 ต.ค.67 พรรคร่วมฝ่ายค้านน่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคล หรือทั้งคณะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ทั้งนี้ หากประชาชนที่มีข้อมูลความไม่โปร่งใสในกระทรวงต่างๆ เพิ่มเติม สามารถขอให้ส่งมาที่ศูนย์ปราบโกงพรรคไทยสร้างไทย