กสทช.วาระพิเศษ พิจารณา 3 เรื่องสำคัญ สั่งสำนักงานทบทวนแผนใช้จ่าย หั่นงบกองทุน กทปส. ช่วย 3 โครงการ เน้นเข้าถึงอย่างเท่าเทียม หลังยอดจัดเก็บเงินเข้ากองทุนต่ำกว่าเป้า
เมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ประธาน กสทช.) มอบหมายให้ พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำ ประธาน กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช.วาระพิเศษ มีการพิจารณา 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และเพื่อสังคมในพื้นที่ขาดแคลน หรือยังขาดบริการที่ทั่วถึง ของแผนปฏิบัติการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ประจำปี 2565 ฉบับที่ 3 ภายใต้แผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2565)
เนื่องจากการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ลดลงต่ำกว่าเป้า จึงต้องปรับลดงบประมาณจาก 6,600 ล้านบาท ให้เหลือ 5,862.15 ล้านบาท ที่ประชุม กสทช. จึงมอบหมายให้สำนักงานทบทวนแผนการใช้จ่าย โดยการเปรียบเทียบระหว่างการเช่าหรือซื้ออุปกรณ์ว่ารูปแบบใดราคาถูกกว่ากัน เพื่อนำงบประมาณส่วนที่เหลือไปจัดสรรเพื่อเพิ่มจุดบริการเพิ่มเติม
2.ร่างประกาศ กสทช. เรื่อง แผนการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2566-2568) (ที่แก้ไขเพิ่มเติม) ซึ่งที่ประชุม กสทช. เห็นชอบในหลักการ และให้จัดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ เพื่อกำหนดความหมายและคำนิยามเป็น ห้ามจัดทำแอปพลิเคชัน ให้ใช้สำหรับบริการโทรคมนาคมเท่านั้น เช่น โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ด้อยโอกาส มีรายได้น้อย และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงสถานศึกษา สถานพยาบาล และหน่วยงานความมั่นคง ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และเสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
และ 3.ระบบการแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell Broadcast) ที่ประชุม กสทช. เห็นชอบในหลักการว่าต้องมีระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน แต่ขอให้กรอบงบประมาณ จำนวน 1,465 ล้าน โดยแบ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์ของโอเปอเรเตอร์ จำนวน 1,031 ล้านบาท ให้หักเงินจากโอเปอเรเตอร์ที่ต้องส่งเข้ากองทุน กทปส. ในกรอบเวลา 3 ปี และกระทรวงดีอี จำนวน 434 ล้านบาท กรอบเวลา 1 ปี ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบก่อน
ทั้งนี้ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าแผนใช้เงินกองทุน กทปส. 3 ปี กำลังพิจารณาวิธีการให้การสนับสนุนแก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ (รพ.สต.) ให้มีการเปรียบเทียบว่าการเช่าหรือซื้ออุปกรณ์จะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่ากัน โดยสำนักงาน กสทช. เสนอให้ซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว แต่พิจารณาแล้วเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันมีการเช่าใช้อุปกรณ์เป็นหลักและค่าใช้จ่ายต่ำกว่า เพื่อให้สามารถนำงบประมาณที่ประหยัดได้ไปขยายการสนับสนุนในพื้นที่อื่นเพิ่มเติม ส่วนระบบการแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินควรได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ครม.ก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนของระบบภาครัฐกับงบประมาณที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รับจัดสรรไว้แล้ว