'กสทช.' หารือ-ฟังความคิดเห็นเชิงลึกผู้ประกอบทีวีดิจิทัล เพื่อประกอบการพิจารณาการใช้คลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) นายต่อพงศ์ เสลานนท์ กสทช. และ พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ร่วมรับฟังความคิดเห็นโดยตรงจากผู้ประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการกำหนดทิศทางสำหรับการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงาน กสทช. อยู่ระหว่างศึกษาโอกาส และความเป็นไปได้ในการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ซึ่งจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะแนวโน้มในอีก 5 ปีข้างหน้า การกำหนดนโยบายจะพยายามฟังรอบด้าน เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดหรือไม่กระทบเลย อย่างไรก็ดี นอกจากธุรกิจทีวีดิจิทัลแล้ว ยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังดู satellite TV และยังมีประเด็นเรื่องอัตลักษณ์แห่งชาติ (National Identity) และความสำคัญด้านวัฒนธรรม ซึ่งเป็นคุณูปการที่ทีวีดิจิทัลได้สร้างสรรค์แก่ประเทศไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้การดำเนินการใดๆ จะต้องสอดคล้องกับกฎหมาย
สำหรับเรื่องนี้ที่อยู่ระหว่างการศึกษา อาจนำมาใช้ได้ในหลายกรณี เช่น Private 5G รวมถึงขยาย Bandwidth สำหรับการใช้งาน 5G ในประเทศ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังคงมีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับความเหมาะสมทางภูมิศาสตร์ในการนำคลื่นความถี่ย่านดังกล่าวมาใช้ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ซึ่งหน่วยงาน GSMA ภูมิภาค Asia-Pacific (APAC) เคยแสดงข้อกังวลในประเด็นนี้ นอกจากนี้ อาจต้องพิจารณาความต้องการของตลาด ความพร้อมของอุตสาหกรรมที่จะนำคลื่นย่านนี้มาใช้ ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ รวมถึงความพร้อมของผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมที่จะเข้าประมูลคลื่นความถี่ย่านนี้
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล นำโดย นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) พร้อมด้วยผู้บริหารจากช่อง Thairath TV, Amarin TV, GMM, One31 และ GMM25 ได้ขอเข้าหารือประธาน กสทช. และ กสทช. โดยได้แสดงความกังวลว่าการจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz สำหรับกิจการโทรคมนาคมจะส่งผลให้ทีวีดิจิทัลไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีก เนื่องจากในปัจจุบันทีวีดิจิทัลยังคงพึ่งพาดาวเทียม C-band ซึ่งอาศัยย่านความถี่ดังกล่าวในการแพร่ภาพ โดยดาวเทียม C-band ถือเป็นช่องทางหลักที่ทีวีดิจิทัลใช้ในการออกอากาศ
ขณะที่ช่องทางอื่นๆ ในการออกอากาศทีวีดิจิทัล มีผู้รับชมลดลงอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากการขยายตัวของการรับชม content ผ่านช่องทาง OTT และปัจจัยอื่นๆ การคงคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ไว้ใช้สำหรับดาวเทียม C-band จึงเป็นวิถีทางอยู่รอดของผู้ประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัลที่จะต้องประกอบธุรกิจต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุในอีก 5 ปีข้างหน้า
"คลื่น 3500 MHz เป็นดังท่อออกซิเจนที่ทำให้ทีวีดิจิทัลอยู่รอดต่อไปได้ หากไม่มีคลื่นย่านนี้สำหรับ C-band ก็เหมือน กสทช. ถอดปลั๊กเครื่องช่วยหายใจของทีวีดิจิทัล" นายสุภาพ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจตระหนักดีถึงความจำเป็นทางด้านกฎหมาย และความสำคัญของคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นคลื่นสำหรับ IMT อย่างน้อยที่สุดขอให้ชะลอการนำคลื่นย่านดังกล่าวคืนมาใช้เพื่อกิจการโทรคมนาคม โดยขอให้อย่างน้อยใบอนุญาตประกอบธุรกิจทีวีดิจิทัลสิ้นสุดลงในปี 2572 ก่อน