'SECOM' ทำธุรกิจในไทยครบ 36 ปี เปิดตัว Smart Security ระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร พร้อมโซลูชันใหม่ตอบโจทย์ผู้สูงวัย-ลูกหลาน ตั้งเป้าปี 67 กวาดรายได้ 2,000 ล้านบาท
นายสุกษม ช่วงโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท รักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท รักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม จำกัด เป็นบริษัทในเครือของ SECOM เป็นผู้ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น มีบริษัทในเครือและกิจการสาขาทั้งในและต่างประเทศรวม 17 ประเทศ เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยตั้งแต่ปี 2530 ปัจจุบันมีศูนย์บริการมากกว่า 50 สาขาทั่วประเทศ
โดยปี 2566 บริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้ใหม่และยอดขายทั้งหมด ทำยอดขายสูงสุดในรอบ 5 ปี กว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของลูกค้าองค์กร (B2B) ถึง 30% และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการเติบโตของลูกค้าทั่วไป (B2C) บริษัทจึงคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท และอัตราการเติบโตเป็นเลข 2 หลักตามค่าเฉลี่ยทุกปี
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น และการที่บริษัทนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ เกิดเป็นโซลูชันใหม่ Smart Security Care เพื่อดูแลผู้สูงวัยที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง โดยมี 3 จุดเด่น ได้แก่ ด้านความปลอดภัย ให้บริการระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. โดยทีมงานมืออาชีพ ด้านสุขภาพ ช่วยติดตามกิจกรรมและพฤติกรรมในแต่ละวันผ่านแอปพลิเคชัน และด้านการช่วยเหลือฉุกเฉิน แจ้งเตือนทั้งสมาชิกในครอบครัวและ SECOM ในกรณีฉุกเฉิน SECOM จะช่วยโทร.เรียกรถโรงพยาบาลตามความจำเป็น
"ตลาดธุรกิจรักษาความปลอดภัยในประเทศไทยโดดเด่นด้วยการใช้กล้องวงจรปิดอย่างแพร่หลาย และคาดว่าจะเติบโตได้ดีในอนาคต ดังนั้น สำหรับ Smart Security Care ซึ่งเป็นบริการใหม่ จึงหวังอย่างยิ่งว่าจะช่วยทำให้ยอดขายของเราเติบโตขึ้น จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้าองค์กร ไปสู่ลูกค้าทั่วไปตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป จากจุดขายที่ตอบโจทย์ ตรงใจลูกค้า และไม่มีผู้ให้บริการอื่นทำได้ครบวงจร มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ใช้งานง่าย ในราคาที่คุ้มค่าเหมือนเรา" นายสุกษม กล่าว
นายเอกรัฐ วิภาณุรัตน์ ผู้อํานวยการสํานักกรรมการ บริษัท รักษาความปลอดภัย ไทยซีคอม จำกัด กล่าวว่า SECOM Smart Security มีราคาค่าบริการรายเดือน เริ่มต้นที่ 199 บาท ค่าอุปกรณ์ เริ่มต้นที่ 5,999 บาท และค่าติดตั้ง เริ่มต้นที่ 3,000 บาท โดยแบ่งเป็นแพกเกจ สำหรับที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยที่มีผู้สูงวัยภายในบ้าน และสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เช่น ออฟฟิศขนาดกลางถึงขนาดย่อม อาคารพาณิชย์ และร้านอาหาร โดยผู้เชี่ยวชาญจะประเมินสถานที่ และจุดติดตั้งอุปกรณ์ ซึ่งคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยเป็นหลัก
ทั้งนี้ ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็ว ซึ่งข้อมูลปี 2565 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 13 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด โดยในจำนวนนี้ 10% เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง และอีก 4.6% เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ด้วยกันดูแลซึ่งกันและกัน
อีกทั้งข้อมูลของ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ระบุว่า สัดส่วนผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 20.91% ในปี 2567 เป็น 31.37% ในปี 2583 ขณะเดียวกัน 3 ล้านราย เป็นตัวเลขผู้สูงอายุที่พลัดตกหกล้มในทุกๆ ปี เฉลี่ย 3 คนต่อวัน โดย 66% ก้าวพลาดหรือลื่นล้มในพื้นระดับเดียวกัน 5.6% ตกจากบันได และ 50% เสียชีวิตจากการลื่นล้ม
"จากสังคมเมืองขยายตัว วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปและความกังวลต่ออาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น เชื่อว่าระบบรักษาความปลอดภัย SECOM Smart Security ที่เป็นมากกว่ากล้องวงจรปิดทั่วไป ด้วยโซลูชันใหม่ เพื่อดูแลผู้สูงวัยภายในบ้าน เหมาะสําหรับคนวัยทํางานที่ไม่ได้อาศัยอยู่กับคุณพ่อคุณแม่แต่ยังมีความกังวัลใจที่อยากจะดูแลคนที่เรารักได้ทุกเมื่อ" นายเอกรัฐ กล่าว