กำลังใจล้น! 'สภาองค์กรของผู้บริโภค' ออกแถลงการณ์-ให้กำลังใจ 'กสทช.พิรงรอง' ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หลังศาลอาญาทุจริตฯ รับพิพากษาคดี True ID ฟ้องผิด 157 จี้ถอนฟ้องโดยเร็ว
วันนี้ (18 มี.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภค (สภาผู้บริโภค) ออกแถลงการณ์ถึงกรณีบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ยื่นฟ้อง ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และศาลสั่งประทับรับฟ้องนั้น
สภาองค์กรของผู้บริโภค เห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ที่ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง เป็นประธานคณะอนุกรรมการ เป็นการคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค โดยคณะอนุกรรมการได้พิจารณาข้อร้องเรียนผู้บริโภคที่ประสบปัญหาการรับชมรายการของช่องโทรทัศน์ดิจิทัลผ่าน Internet TV Box และแอปพลิเคชัน True ID ที่มีโฆษณาคั่นเวลาขณะเปลี่ยนช่องรายการซึ่งทำให้ผู้ชมได้รับความเดือดร้อน และคณะอนุกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า การให้บริการที่มีการนำเอา "ช่องรายการโทรทัศน์ดิจิทัลของผู้รับใบอนุญาตทั้งช่อง" ไปเผยแพร่ผ่านทางบริการ True ID นั้น อาจขัดต่อประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2555 ข้อ 14 (23) และเงื่อนไขใบอนุญาตของผู้รับใบอนุญาตโทรทัศน์ดิจทัล ที่กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตตามประกาศดังกล่าวต้องเผยแพร่ช่องรายการของตนเองผ่านทางผู้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายจาก กสทช. เท่านั้น
และยังอาจขัดต่อประกาศ Must Carry ที่กำหนดให้ผู้ให้บริการช่องรายการ และผู้ให้บริการโครงข่ายต้องนำพาสัญญาณไปโดยไม่มีการแทรกเนื้อหาใดๆ (pass through) ด้วย คณะอนุกรรมการจึงมีมติให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือแจ้งให้บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ผู้รับใบอนุญาตช่องโทรทัศน์ดิจิทัลปฏิบัติตามประกาศ กสทช.ที่เกี่ยวข้องและเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมทั้งมีมติให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่ามีการให้บริการในลักษณะเดียวกับ True ID อีกหรือไม่ และสำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือแจ้งเวียนผู้รับใบอนุญาตช่องรายการให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช. และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาต (ตามข่าวบอกว่าเป็นการเสนอแนะไม่ใช่ออกคำสั่ง)
สภาองค์กรของผู้บริโภค เห็นว่า การฟ้องคดีของบริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นการนำกระบวนการยุติธรรมมาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อมุ่งหวังที่จะระงับยับยั้งการปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลของกรรมการ กสทช. โดยอิสระ ในการปกป้องผลประโยชน์ของผู้บริโภคและประโยชน์สาธารณะ อาจเข้าข่ายของลักษณะการกระทำที่เรียกว่า "การฟ้องปิดปาก" ซึ่งผู้ฟ้องคดีอาจมิได้มุ่งผลให้ผู้ถูกฟ้องคดีได้รับโทษทางกฎหมายอย่างแท้จริง แต่กระทำเพื่อเป็นการขัดขวางและหน่วงเวลาในการที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
สภาผู้บริโภคและสมาชิกองค์กรผู้บริโภค จึงขอให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กสทช. เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและประโยชน์สาธารณะของ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง และขอเรียกร้องให้บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด พิจารณาถอนฟ้อง ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง โดยเร็ว