xs
xsm
sm
md
lg

HP ขี่คลื่น AI ซัดแรงโลกสะเทือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอชพี (HP) เปิดแผนรับโอกาสทองจากกระแสปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่กำลังมีอิทธิฤทธิ์สะเทือนทั้งโลก ประเดิมโชว์อุปกรณ์-บริการ-ซอฟต์แวร์ใหม่พลัง AI เพื่อชิงเค้กมูลค่า 7.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเป็นเม็ดเงินสะพัดในทุกตลาดที่เกี่ยวข้องกับเอชพี หนึ่งในนั้นคือการเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI แรกที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการการใช้เทคโนโลยีของพนักงานแต่ละคนได้ง่าย ยังมีอุปกรณ์ AI PC รุ่นใหม่ที่ลดผลกระทบต่อโลก และบริการสมัครสมาชิกที่กำลังขยายผลในทุกกลุ่มธุรกิจยุค AI ของเอชพี

เอนริเก้ โลเรส (Enrique Lores) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอชพี ไม่ได้เปิดเผยเป้าหมายรายได้จากโมเดลสมัครสมาชิกที่เอชพีวางไว้สำหรับปีนี้ โดยระบุเพียงว่าเอชพีกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการขยายการให้บริการสมาชิกกับลูกค้าทั่วโลก ท่ามกลางสัญญาณตลาดที่กำลังเติบโตอย่างหยุดไม่อยู่ ซึ่งล่าสุดจำนวนสมาชิกที่กดสมัครรับบริการเติมหมึกพิมพ์ของเอชพีนั้นมีจำนวนเกิน 13 ล้านรายแล้วเรียบร้อย

เอนริเก้ โลเรส (Enrique Lores) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเอชพี
ซีอีโอคนเก่งของเอชพีสรุปว่าวันนี้บริษัทให้ความสำคัญทั้งกับการนำ AI มาจับกับทุกธุรกิจเอชพี เช่นเดียวกับการสร้างบริการสมัครสมาชิกให้ครอบคลุมพอร์ตโฟลิโอทั้งหมดของบริษัท ซึ่งไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเพอร์ซัลนอลซิสเต็มส์หรือระบบไอทีส่วนบุคคล, ธุรกิจการพิมพ์, ธุรกิจอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งกล้อง ชุดหูฟัง รวมถึงซอฟต์แวร์และบริการอื่น ล้วนมีสัญญาณว่าเอชพีจะมุ่งโอบรับ AI และก้าวเข้าสู่โมเดลสมัครสมาชิก ซึ่งจะสามารถสร้างกระแสรายได้ที่ไม่เพียงจะมีผลกำไรมากขึ้น แต่ที่สำคัญกว่าคือความเหนียวแน่น ที่จะทำให้การแข่งขันในโลกไอทีสั่นสะเทือนมากขึ้นอีกในรอบหลายสิบปี



***ถึงเวลากลับมาชนะ

ผู้บริหารเอชพียอมรับว่าเคยคาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2023 ให้เป็นปีที่ยากลำบาก ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นปีที่โหดหินจริงตามที่คาด แต่สำหรับปี 2024 ความมุ่งมั่นของเอชพีอยู่ที่เหล่าพันธมิตรที่เป็นชาแนลหรือช่องทางจำหน่าย การอ้าแขนโหนกระแส AI และการย้ายเข้าสู่ธุรกิจการสมัครสมาชิกรับบริการ เบื้องต้นโลเรสชี้ว่าเอชพีสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมาทั้งที่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก แม้จะไม่เอ่ยถึงความต้องการพีซีที่หดลง แต่หัวเรือใหญ่เอชพียืนยันว่าบริษัทจำเป็นต้องมองโลกในแง่ดี และจะต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะ

“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องบุกหนักและเริ่มคว้าชัยชนะกลับมาในตลาดอีกครั้ง เราได้ทำผลงานดีมากติดต่อกันในช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา เราได้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดของเราในเซกเมนต์พีซี หลังจากได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกคน”

ปัจจุบัน ตลาดพีซีทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากการลดลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 ด้วยอัตราเติบโตเล็กน้อยที่ 0.3% ข้อมูลจากบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ (Gartner)ชี้ว่ายอดขายคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลกไตรมาส 4 ปี 2023 มียอดรวม 63.3 ล้านเครื่อง นับเป็นการกลับมาเติบโตหลังจากลดลงต่อเนื่องตลอด 8 ไตรมาส สรุปแล้วปี 2023 ตลาดพีซีมียอดขายแตะ 241.8 ล้านเครื่อง ลดลง 14.8% เมื่อเทียบกับปี 2022 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ยอดขายพีซีลดต่ำกว่า 250 ล้านเครื่อง จาก 230 ล้านเครื่องในปี 2006

สำหรับปี 2024 ความมุ่งมั่นของเอชพีอยู่ที่เหล่าพันธมิตรที่เป็นชาแนลหรือช่องทางจำหน่าย
ในมุมของเอชพี ข้อมูลจากการ์ทเนอร์ระบุว่าช่วงไตรมาส 4 ปี 2023 ที่เพิ่งจบไป เอชพีสามารถจัดส่งพีซี 13.9 ล้านเครื่อง มากขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2022 เบ็ดเสร็จแล้วการจัดส่งพีซีทั้งปีโดยรวมสำหรับปี 2023 ของเอชพีมีจำนวน 52.9 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่ง 21.9% ของตลาดรวม เพิ่มขึ้นจากที่เคยทำได้ 19.5% แม้จะมียอดขายรวมลดลง 4.5% จากปี 2022 ที่เคยทำได้ 55.4 ล้านเครื่อง

หากมองในตลาดรวม เอชพีสามารถชนะขาดลอยในตลาดสหรัฐฯ โดยครองส่วนแบ่งตลาดเบอร์ 1 ในสหรัฐฯแซงคู่แข่งอย่างเดลล์ แอปเปิล และเลอโนโว อย่างไรก็ตาม เอชพีเป็นรองเลอโนโวในตลาดโลก เพราะเลอโนโวสามารถจัดส่งพีซี 16.2 ล้านเครื่องในไตรมาส 4 ปี 2023 และทำยอดจัดส่งพีซีทั้งปีที่ 59.7 ล้านเครื่อง คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 24.3%

สำหรับช่วงเวลาทองของ AI อย่างปี 2024 สินค้าที่กำลังถูกจับตามองในปีนี้คือ AI PC โดยตามนิยามของการ์ทเนอร์ AI PC คือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ติดตั้งหน่วยประมวลผลที่เป็นตัวเร่งความเร็วหรือแกนประมวลผล AI ไว้โดยเฉพาะ ได้แก่ หน่วยประมวลผล Neural Processing Unit (NPU), หน่วยประมวลผล Accelerated Processing Unit (APU) หรือหน่วยประมวลด้าน AI เฉพาะ อย่าง Tensor Processing Units (TPU) ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเร่งการทำงานของปัญญาประดิษฐ์บนอุปกรณ์ ทำให้มอบประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีขึ้นในการจัดการปริมาณงานของ AI และ GenAI โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ภายนอกหรือบริการคลาวด์ต่างๆ

เบื้องต้น การ์ทเนอร์เชื่อว่าการส่งมอบ AI PC ในปี 2024 จะคิดเป็น 22% ของยอดรวมทั้งหมดของตลาดพีซี คิดเป็นตัวเลขกลมๆ 54.5 ล้านเครื่องในปลายปี 2024 เพิ่มจากปี 2023 ที่มียอดขายคิดเป็น 1%



***AI PC มาแรง

เหตุผลที่ทำให้ 1 ใน 5 ของพีซีที่จัดส่งในปี 2024 มีแนวโน้มเป็นพีซีที่มีความสามารถด้าน AI คือ การนำโปรเซสเซอร์ AI และความสามารถของ GenAI มาใช้อย่างรวดเร็วบนอุปกรณ์ นั้นจะกลายเป็นมาตรฐานสำหรับค่ายผู้พัฒนาและจำหน่ายอุปกรณ์และระบบไอทีในอนาคต ภาวะนี้นำไปสู่การแข่งกันสร้างความแตกต่างจากตลาดและการปฏิวัติยกระดับวงการพีซี ส่งให้ผู้เล่นในตลาดพีซีมีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น เช่นเดียวกับเอชพีที่จะมีโอกาสงามจากกระแส AI PC สุดฮอตไปด้วย

1 ใน 5 ของพีซีที่จัดส่งในปี 2024 มีแนวโน้มเป็นพีซีที่มีความสามารถด้าน AI
โลเรสระบุว่าความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการประมวลผล AI ของพีซีแบรนด์เอชพี จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเรียกใช้โมเดล AI ต่างๆ ในเครื่องโดยตรงเปลี่ยนจากเดิมที่ต้องเปิดใช้การทำงานบนคลาวด์ นำไปสู่ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดยความเก่งกาจขนาดสามารถรันโมเดลภาษาขนาดใหญ่หรือ LLM ภายในอุปกรณ์แบบไม่ต้องไปอาศัยการประมวลผลบนคลาวด์นั้นจะเป็นผลดีมากกับผู้ที่เป็นครีเอเตอร์หรือมืออาชีพด้านงานสร้างสรรค์ เพราะจะได้เปรียบเรื่องความเร็ว ขณะเดียวกันก็ปลอดภัยเพราะลดความจำเป็นในการส่งข้อมูลที่ละเอียดอ่อนขึ้นไปยังคลาวด์ ที่สำคัญยังประหยัดกว่า เนื่องจาก AI PC อาจให้ความคุ้มค่าได้มากกว่าในระยะยาวเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บริการคลาวด์

เพื่อเดิมพันในตลาด AI PC เอชพีได้ร่วมมือกับอินเทล (Intel) เอเอ็มดี (AMD) ไมโครซอฟท์ (Microsoft) กูเกิล (Google) ควอลคอมม์ (Qualcomm) และเอ็นวิเดีย (Nvidia)โดยโลเรสกล่าวว่านี่คือช่วงเวลาแห่งการคว้าโอกาสจากความท้าทายที่เกิดขึ้นเมื่อบริษัทเทคโนโลยีต้องปรับตัวเข้ากับยุคของ AIโดยในมุมของเอชพี โลเรส วางเป้าหมายให้ AI ไม่เพียงช่วยปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้ให้เป็นแบบส่วนตัว แต่จะเป็นตัวช่วยเปิดโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจและบุคคลอีกด้วย

เอชพีเชื่อในศักยภาพของ AI ที่สามารถสร้างประสบการณ์แบบเฉพาะตัวในการมอบสิ่งที่ทั้งพนักงานและองค์กรบริษัทต่างก็ต้องการ ทำให้เกิดเป็นเครื่องมือทรงพลังจาก AI ที่สามารถสตรีมเวิร์กโฟลว์แบบเรียลไทม์, เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ซึ่งนำไปสู่ความยืดหยุ่นและสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในท้ายที่สุด

นอกจาก AI PC ราคาไฮเอนด์ โลเรสยังพูดถึงแผนเปิดตลาดคอมพิวเตอร์พีซีราคาประหยัดด้วยโดยอิงจากตลาดอินเดียที่กำลังก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของโลก สิ่งที่เกิดขึ้นคือพื้นที่เศรษฐกิจของโลกในช่วง 10 ปีจากนี้มีความแตกต่างจากพื้นที่ซึ่งเคยเติบโตใน 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตลาดเกิดใหม่นี้เองที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของเอชพี ให้สามารถเข้าถึงลูกค้าผู้ใช้อุปกรณ์ไอทีอีกพันล้านคนถัดไป

เบื้องต้น เอชพีมีแผนขยายโมเดลค้าปลีกและการจับมือกับพันธมิตรเพื่อทำตลาดกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กในอินเดียรวมถึงนักศึกษาที่ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเป็นครั้งแรก และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงแล็ปท็อปมาก่อน เป็นการเสริมกับแผนที่เอชพีมุ่งกำหนดเป้าหมายสร้างการเติบโตไปที่ลูกค้าภาครัฐและ SMB โดยเฉพาะ โดยเอชพีกำลังเตรียมให้บริการในรูปแบบสมัครสมาชิกซึ่งเอชพีไม่มีนโยบายลงมาให้บริการเอง แต่จะมุ่งจับมือให้บริการผ่านพันธมิตรที่เป็นชาแนลหรือช่องทางจำหน่ายแทน


ชาแนลช่องทางจำหน่ายนั้นเป็นแหล่งที่มาของรายได้กว่า 85% ของรายได้รวมเอชพี คิดเป็นมูลค่าเกิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สถิตินี้ทำให้เอชพีวางตัวเป็นบริษัทที่มุ่งโฟกัสช่องทางการขายต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง สวนทางกับบางแบรนด์ในวันนี้ที่อาจไม่ได้ยึดมั่นในชาแนลแล้วโดยเอชพีหยอดคำหวานว่าจะมุ่งรักษาความสัมพันธ์ของพาร์ทเนอร์ที่มีมานานหลายปี และวางแผนที่จะรักษาแนวทางนี้ต่อไปในอนาคตด้วย สำหรับแผนการย้ายธุรกิจไปสู่รูปแบบบริการสมัครสมาชิกและบริการเพิ่มเติม พบว่าปัจจุบัน เอชพีมีพันธมิตรมากกว่า 2,000 รายที่นำเสนอบริการด้านการจัดการของเอชพีในทั่วโลก

***ปรับโปรแกรมพันธมิตร

นอกจากสินค้า เอชพียังมุ่งปรับโปรแกรมผู้ค้าอีกทางโดย เดฟ แมคควารี (Dave McQuarrie) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าหรือ CCO ของเอชพีกล่าวต่อพันธมิตรทั่วโลกผู้เข้าร่วมงาน HP Amplify Partnerในลาสเวกัสกว่า 1,500 คน ถึงการเร่งปรับกระบวนการเพื่อให้ทำงานกับพันธมิตรได้ง่ายขึ้นว่า กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความไว้วางใจจากพันธมิตร โดยยอมรับว่าแม้รายได้ของเอชพีมากกว่า 85% จะมาจากพันธมิตรที่เป็นช่องทางจำหน่าย คิดเป็นมูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์ แต่พันธมิตรบางรายยังมีประเด็นร้องเรียนเกี่ยวกับกระบวนการที่ช้าและซับซ้อน และปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน ดังนั้น เอชพีจะมุ่งลดความซับซ้อนของโครงสร้าง เครื่องมือ ข้อกำหนด และโปรแกรมพันธมิตร Amplify เพื่อให้แน่ใจว่าเอชพีจะเป็นบริษัทที่ง่ายที่สุดในการทำธุรกิจด้วย

เดฟ แมคควารี (Dave McQuarrie) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าหรือ CCO ของเอชพี
สำหรับประเด็นร้อนอย่าง AI แมคควารีย้ำว่าเอชพีกำลังใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานภายในบริษัท โดยปี 2023 เอชพีมีการใช้ AI คาดการณ์ด้านช่องทางการจำหน่าย และกำลังมีแผนขยายการใช้เทคโนโลยี AI ไปในทุกฝ่ายทั่วบริษัท

ในด้านพันธมิตรการจำหน่าย เอชพีตั้งความหวังว่าจะเป็นพันธมิตรที่พาร์ทเนอร์สามารถไว้วางใจได้ เพื่อร่วมกันทำผลงานที่ดีร่วมกัน โดยปัจจุบัน เอชพีกำลังเปิดรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่น่าตื่นเต้นและมีชีวิตชีวาที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ดังนั้นขอให้ทุกคนรับรู้ว่าเอชพีมีความทะเยอทะยาน มุ่งมั่น รับฟัง และปรับปรุง เพื่อชัยชนะและการเติบโตในตลาดไปด้วยกัน


หนึ่งในบริการสมัครสมาชิกที่เอชพีวางแผนร่วมกับพันธมิตรเปิดตัวในปลายปี 2024 คือบริการจัดการห้องประชุม (Managed Collaboration Services) ซึ่งจะเป็นบริการสมัครสมาชิกเพื่อพัฒนาห้องประชุมให้กับองค์กรโดยบริษัทที่มีขนาดเล็กจะสามารถรับบริการจัดการห้องประชุมอย่างสม่ำเสมอ และเพิ่มประสิทธิภาพห้องประชุมให้ดูเป็นมืออาชีพโดยไม่ต้องจ้างพนักงานราคาแพง

เอชพีมั่นใจว่าบริการนี้จะเป็น “เหมืองทอง” (goldmine) โดยมองว่าเป็นบริการที่มีโอกาสเติบโตสูงเนื่องจากเป็นบริการที่สร้างความสามารถในการจัดการและทำความเข้าใจประสบการณ์ของผู้ใช้ที่เป็นพนักงานของบริษัททั่วโลกมาปรับใช้และเปิดใช้งานต่อได้แบบทันที นำไปสู่รายได้มหาศาลซึ่งเป็นโอกาสสำหรับเอชพีในอนาคต


***เวิร์กฟอร์ซโซลูชันง่าย-งานพิมพ์ดี

อีกหนึ่งในบริการที่เอชพีมองว่ามีโอกาสเติบโตสูงในปี 2024 คือบริการเวิร์กฟอร์ซโซลูชันใหม่พลัง AI ชื่อ WEX โดยคาร์เลส ฟอร์เรส (Carles Farre) รองประธานและประธานฝ่ายดำเนินงาน เอชพี เวิร์กฟอร์ซโซลูชัน ระบุว่าเอชพีจะมุ่งสื่อสารถึงประโยชน์การใช้งานโซลูชันใหม่มากกว่าการไฮไลท์ที่ตัวเลขความคุ้มทุนหรือ ROI โดยมั่นใจว่า WEX เวิร์กฟอร์ซโซลูชันล่าสุดที่เปิดตัวออกมานั้นตอบโจทย์โลกการทำงานของลูกค้าองค์กรที่เปลี่ยนไป ทั้งด้านความง่ายต่อการเข้าใจ ด้านประสิทธิภาพในการช่วยจัดการให้ IT Manager สามารถควบคุมระบบไอทีองค์กรได้เร็วขึ้น ด้านการสนับสนุนโมเดลสมัครสมาชิก และด้านความยั่งยืนซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่องค์กรปัจจุบันให้ความสำคัญ

หน้าตาของ WEX แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ CIO เพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ของพนักงาน
เมื่อถามถึงจุดต่างของเวิร์กฟอร์ซโซลูชันของเอชพีเมื่อเทียบกับบริการสมาชิกของบริษัทไอทีอื่น ฟอร์เรสยอมรับว่ามีผู้เล่นมากมายในตลาดปัจจุบันที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้ ทั้งไมโครซอฟท์ อะโดบี และบริการไซเบอร์ซีเคียวริตี้จำนวนมาก แต่ข้อแตกต่างของเอชพีคือการมีสินค้าครบทุกอย่างในพอร์ตขนาดใหญ่ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโซลูชัน ซึ่งผู้ให้บริการรายอื่นอาจมีแพ็กเกจเฉพาะเป็นส่วนใหญ่ ต่างจากเอชพีที่สามารถปรับผสม หรือสามารถเลือกให้เหมาะสมกับลูกค้าที่มีขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ดังนั้นเอชพีจึงมีจุดยืนที่โดดเด่นในเชิงบริการและพันธมิตรที่ให้บริการได้ต่างกัน

ฟอร์เรสยืนยันว่าเอชพีจะไม่มีการลงไปให้บริการเวิร์กฟอร์ซโซลูชันด้วยตัวเอง แต่จะทำตลาดผ่านพันธมิตร โดยพื้นที่เป้าหมายในปี 2024 คือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านทรัพยากรมนุษย์ ปัจจุบันแพลตฟอร์ม HP Workforce Experience Platform นั้นมีลูกค้ามากกว่า 2 พันราย เชื่อมต่อกับจุดเอนด์พอยต์มากกว่า 16 ล้านจุด

วิวาน โชว (Vivan Chow) หัวหน้าฝ่ายจัดการสินค้าและพอร์ตโฟลิโอของเอชพี แสดงความเห็นถึงแนวคิดการเปิดตัวเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ของเอชพีในปีนี้ว่า เป็นการพัฒนาคุณภาพงานพิมพ์ที่ดีขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์ โดยจากเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ เอชพีได้ปรับให้เหมาะกับองค์กรขนาดย่อมหรือSMBทั้งการลดขนาดให้เล็กลง ลดการใช้พลาสติกการคิดค้นโทนเนอร์ใหม่ที่ทำให้องค์กรขนาดเล็กใช้ของที่ประหยัดได้ด้วยขณะที่รองรับโมเดลสมัครสมาชิกอย่างเต็มที่

เหตุผลที่ทำให้เอชพีมุ่งโฟกัสธุรกิจงานพิมพ์ไปที่ SMB คือการเห็นความต้องการยกระดับการพิมพ์จากที่เคยมี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ SMB เป็นเซกเมนต์ตลาดที่เติบโตสูง ขณะเดียวกันหากได้เห็นโอกาสและประโยชน์ SMB ก็ยังคงลงทุนแม้จะมีงบจำกัด ตลาดจึงมีความใหม่และแตกต่าง เบื้องต้นเอชพีไม่มีการกำหนดจุดราคาที่เหมาะสมกับตลาดมิดเรนจ์ในอนาคต

เมื่อถามถึงวิสัยทัศน์การพัฒนาด้าน “งานพิมพ์ AI” หรือ AI Printing เอชพีย้ำว่าจะให้ความสำคัญกับยูสเคสการพิมพ์ที่จะสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งแต่เดิม ผู้ใช้จะต้องตั้งค่าไดร์ฟเวอร์หลายขั้นตอน แต่เอชพีสามารถพัฒนาให้ระบบจัดการล่วงหน้าว่าผู้พิมพ์ควรจะเห็นอะไรในใบงานพิมพ์บ้าง ซึ่งเพียงแค่กดปุ่มเดียว ก็จะเลือกได้ว่าใบงานที่พิมพ์ออกมาจะมีการจัดหน้าอย่างไร โดยยอมรับว่ายังไม่มีการนำ AI มาใช้ยกระดับเรื่องกำลังการพิมพ์ สาเหตุที่ไม่เน้นเพราะสวนทางกับหลักคิดเรื่องความยั่งยืน

เครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ของเอชพี
เอชพียอมรับว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI Printing นั้นต้องใช้งบประมาณไม่น้อย แต่บริษัทก็เดินหน้าลงทุนเนื่องจากเห็นประโยชน์ โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการทั้งพัฒนาขึ้นเองและร่วมมือกับบริษัทด้าน AI ที่มีเทคโนโลยีอยู่แล้ว จุดนี้บริษัทมีความตั้งใจขยายการใช้งานเทคโนโลยี AI ให้ครอบคลุมทั้งอีโคซิสเต็ม ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ โมบาย หรือในรถ ซึ่งทั้งหมดเอชพีย้ำว่าขอให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการนำข้อมูลงานพิมพ์ของลูกค้ามาใช้สอน AI เนื่องจากบริษัทเป็นองค์กรที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าอยู่แล้ว

เหนืออื่นใด วิวานเชื่อว่าแม้ปริมาณงานพิมพ์ทั่วโลกจะมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่ธุรกิจการพิมพ์จะยังอยู่ได้ เพราะความต้องการในตลาดยังมี คาดว่าจะลดลงเป็นเลข 1 หลัก ไม่ใช่ลดฮวบเนื่องจากท่ามกลางเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีความสำคัญ แต่การพิมพ์ก็มีความสำคัญเช่นกันในบางอุตสาหกรรม เช่น การศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขยอดลูกค้าสมาชิกบริการเติมหมึกพิมพ์ของเอชพี Instant Ink ที่ทะลุ 13 ล้านรายแล้ว



***มากกว่าสวยงาม

โครี แมคเอลรอย (Cory McElroy) รองประธานฝ่ายคอมเมอร์เชียลโปรดักส์ ย้ำว่าการพลิกโฉมพีซีรอบนี้ของเอชพีไม่ได้เน้นแค่ความสวยงาม แต่บริษัทให้ความสำคัญกับพลังการทำงานที่สูงขึ้นมาก โดยมีการนำชิป 8 คอร์มาใช้ใน G Seriesใหม่และมี NPU ในชิปเซ็ต ทำให้สามารถทำงานได้หลายงานพร้อมกันมากขึ้น เช่นการ “เบลอแบ็คกราวด์” หรือการละลายภาพฉากหลังขณะประชุมทางไกลที่เคยทำให้เครื่องพีซีตัวบางรุ่นเก่าต้องอยู่ในสถานะร้อนสะสมและเสียงดังจาก CPU ที่ทำงานหนักมาก แต่วันนี้ทุกอย่างไร้ปัญหาเพราะมี NPU ช่วยจัดการร่วมกับชิป GPU และ CPU ทำให้เครื่องเงียบผิดหูผิดตา

มีการนำชิป 8 คอร์มาใช้ใน G Seriesใหม่และมี NPU ในชิปเซ็ต ทำให้สามารถทำงานได้หลายงานพร้อมกันมากขึ้น
แมคเอลรอยชี้ว่าเอชพีพยายามนำหน้าผู้เล่นรายอื่นในเกม AI PC ด้วยการร่วมมือกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ AI เพื่อให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์นั้นใช้ประโยชน์จาก NPU ของเครื่องจริง ซึ่งจะทำให้เห็นชัดว่า NPU ใน AI PC นั้นช่วยให้การทำงานของซอฟต์แวร์ AI นั้นเร็วขึ้น สำหรับการมีปุ่มผู้ช่วย AI อย่างโคไพลอต (AI Copilot) ของไมโครซอฟท์มากับปุ่มคีย์บอร์ดพีซี เอชพียอมรับว่าอาจยังไม่มีผลกระตุ้นความต้องการตลาดพีซีองค์กร เนื่องจากบางบริษัทยังไม่อนุญาตให้ใช้โคไพลอตดังนั้นพนักงานจึงยังคงใช้ระบบเสิร์ชดั้งเดิมที่มากับวินโดวส์ต่อ แต่เชื่อว่าปัจจัยอื่นอย่างแบตเตอรี่นั้นทำให้ต้องเปลี่ยนพีซี เพราะพีซีรุ่นใหม่สามารถทำงานได้นานกว่าที่เคย

สำหรับ G Series ใหม่ เอชพีระบุว่าเป็นพีซีรุ่นแรกที่ใช้วัสดุรีไซเคิลที่ช่องว่างของแป้นพิมพ์ ขณะเดียวกันก็ใช้เอชพีสมาร์ทเซนส์ ซอฟต์แวร์ที่จะทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเหมือนรถที่ปรับพลังได้ตามเวิร์กโหลด เมื่อไม่ต้องทุ่มพลังทั้งหมดและมีการประเมินก่อน จึงทำให้เครื่องสามารถทำงานตามวัตถุประสงค์ได้ ประหยัดพลังงานมากขึ้น ยืดอายุใช้งานต่อเนื่องเกิน 10 ชั่วโมงแบบไม่ต้องชาร์จเพิ่ม จะมีการเพิ่มรุ่นหน้าจอสัมผัสให้เลือกภายในปี 2024 เป็นการรวมพลังซูเปอร์พาวเวอร์ไว้ในร่างบางอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

ด้าน เจนนิเฟอร์ อาดัมส์ (Jennifer Adams) ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายไฮบริดเวิร์กโซลูชั่นส์และ NPI กล่าวถึงแผนพัฒนาอุปกรณ์ต่อพ่วงกลุ่มแบรนด์โพลี (Poly) ที่เอชพีควบรวมอย่างเป็นทางการปี 2022 ว่า นอกจากอุปกรณ์กลุ่มกล้องวิดีโอ ปีนี้โพลีได้เปิดตัวคีย์บอร์ดที่สูงต่ำเป็นคลื่น สามารถแยกมือเพื่อพิมพ์และพักมือได้สะดวกกว่าเดิมยังมีเมาส์ไร้สายที่ชาร์จได้ตลอดเวลาและมีการขยายผลให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้หลายอย่างขึ้นบนคีย์แพด

ในอีกด้าน แล็ปท็อปรุ่นใหม่ของเอชพียังมาพร้อมเทคโนโลยีเครื่องเสียงของโพลี มีการใช้วิศวกรโพลีเป็นทีมอินเฮาส์เพื่อพัฒนาคุณภาพเสียงในเอชพี กำหนดการวางจำหน่ายเริ่มในมิถุนายนปีนี้ โดยจะมีปุ่มโคไฟลอตคีย์ติดมากับคีย์บอร์ดด้วย
จากที่มุ่งทำงานเรื่องเทคโนโลยีด้านเสียงที่เกี่ยวข้องกับเพลง แต่เอชพีวางตัวให้โพลีนำเทคโนโลยีออดิโอมาลงในระบบประชุมมากขึ้น โดยล่าสุดโพลีได้เปิดจำหน่ายกล้อง 2 ตัวสำหรับพีซีในห้องประชุม ออกแบบให้เป็นกล้องทรงกระบอกสำหรับวางกลางห้องประชุม เพื่อให้เวลาที่ผู้พูดหันหลังให้กล้องแรก ก็จะมีกล้อง 360 องศาตัวที่ 2 จับภาพได้โดยจะวางขายพร้อมกล้องรุ่นกลางที่ติดตามผู้กำลังนำเสนอในห้องประชุม และกล้องรุ่นรองลงมาสำหรับห้องประชุมรุ่นเล็ก ซึ่งเพียงเสียบก็จะมีทุกอย่างพร้อมเริ่มประชุมทางไกล

อุปกรณ์ต่อพ่วงกลุ่มแบรนด์โพลี (Poly) ที่เอชพีควบรวมอย่างเป็นทางการปี 2022
เมื่อถามถึงแผนพัฒนาอนาคต โพลีวางจุดยืนนำ AI มาช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นและได้ยินดีขึ้นบนอุปกรณ์โพลีทั้งการเชื่อมต่อกับเฮดเซ็ตเพื่อให้การป้องกันเสียงรบกวนทำได้ดีขึ้น โดยปัจจุบันสามารถแยกเสียงน้องหมา และยังคงเสียงคนพูดไว้ได้ชัด และอีกหลายเทคโนโลยีที่สร้างขึ้นมาสำเร็จแล้วแต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

สำหรับ AR และ VR นั้นมีอยู่ในแผนพัฒนาของโพลี หลักคิดของโพลีคือการมองว่าการประชุมประกอบด้วยประสบการณ์มากมาย ซึ่งแม้เอชพีจะยังไม่มีนโยบายพัฒนาชุดอุปกรณ์สวมศีรษะ แต่ก็ยังคงมองหาวิธีใหม่ในการยกระดับการประชุมอยู่เสมอ ซึ่งปัจจุบันโพลีอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่จะนำไปสู่การแสดงภาพเหมือนมีคนอยู่ในห้องประชุมจริง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายของโพลีในระยะยาว.


กำลังโหลดความคิดเห็น