xs
xsm
sm
md
lg

ท้าชิงแอปเรียกรถ ‘TADA’ เจาะตลาดไทย เก็บแค่ค่าธรรมเนียม ไม่คิดคอมมิชชัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



TADA แพลตฟอร์มเรียกรถเบอร์ 2 ในสิงคโปร์บุกไทย เรียกรถไม่คิดค่าคอมมิชชัน หลังได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก พร้อมร่วมมือกับสหกรณ์แท็กซี่เพิ่มจำนวนรถบนแพลตฟอร์มรวมกว่า 15,000 คัน ให้บริการเรียกที่เป็นธรรม ด้วยการคิดค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มเริ่มต้น 20 บาท แทน

ฌอน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TADA กล่าวถึงการแข่งขันในกลุ่มแพลตฟอร์มเรียกรถโดยสาร ที่เชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มเรียกรถที่ไม่มีโมเดลคิดค่าคอมมิชชัน และหวังว่าจะสร้างความสำเร็จในประเทศไทย เช่นเดียวกับในสิงคโปร์

“ในสิงคโปร์ TADA ใช้ระยะเวลา 4-5 ปี ในการสร้างกำไร ทำให้เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3-4 ปี ในไทยเพื่อที่จะทำกำไรได้ พร้อมกับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย”

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ TADA สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลาอันสั้น มาจากต้นทุนทีมงานที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ไม่ได้มีการจ้างพนักงานจำนวนมากและปลดออกในภายหลัง แต่เป็นการค่อยๆ เติบโต เบื้องต้นสำนักงานในประเทศไทยมีทีมงานราว 30 คน ซึ่งผสมผสานทั้งคนไทย และทีมงานจากต่างชาติที่เข้ามาดูแลในช่วงเริ่มต้น

TADA นับเป็น 1 ใน 5 แพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมขนส่งในสิงคโปร์ และให้บริการมากว่า 5 ปี รวมถึงในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้รับใบอนุญาตบริการเรียกรถโดยสารจากกรมขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการ ทำให้ปัจจุบัน TADA ให้บริการอยู่ในสิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม และล่าสุดในไทย


สำหรับการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ในช่วงแรก TADA ได้ร่วมมือกับ HOWA International ผู้ใหบริการแท็กซี่มิเตอร์ในประเทศไทย ในการเชื่อมต่อมิเตอร์ และแอปพลิเคชันเข้าด้วยกัน ส่งผลให้ได้รถในพิกัดที่แม่นยำ ถูกกฎหมาย มีความแม่นยำของพิกัด GPS ที่ติดตั้งอยู่บนมิเตอร์

แพลตฟอร์มอื่นจะมีการเรียกเก็บทั้งค่าคอมมิชชัน และค่าธรรมเนียม รวมกับค่าโดยสาร ในขณะที่ TADA จะแตกต่างตรงที่เก็บเฉพาะค่าธรรมเนียมเริ่มต้นที่ 20 บาท (เข้าแพลตฟอร์ม) รวมกับค่าโดยสาร (รายได้ของผู้ขับ) เท่านั้น ทำให้ผู้โดยสารประหยัดค่าเดินทางมากขึ้น และผู้ขับจะได้รับรายได้อย่างเท่าเทียม

“ประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการ และประหยัดค่าโดยสาร พร้อมทำให้การเดินทางปลอดภัย และยุติธรรม เพื่อสร้างระบบนิเวศการเดินทางที่เป็นธรรม ในการกระจายคุณค่าให้ทั้งฝั่งผู้โดยสาร ผู้ขับ และแพลตฟอร์ม ที่สำคัญคือใช้งานง่าย และเชื่อถือได้จากที่ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถรับจ้างสาธารณะอันดับ 2 ในสิงคโปร์”

ที่สำคัญคือค่าโดยสารโดยเฉลี่ยของ TADA จะดีกว่าแพลตฟอร์มอื่นที่เก็บค่าคอมมิชันสูงสุดถึง 30% ช่วยเพิ่มอิสรภาพกับคนขับในการเลือกรับงานที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มความสุขในการให้บริการ และเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาการเลือกรับงานที่จะเกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ TADA จะเริ่มให้บริการรถยนต์โดยสารประเภทรถเก๋ง ด้วยจำนวนผู้ขับราว 15,000 คน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และมีแผนที่จะขยายไปยังพื้นที่ปริมณฑล นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ก่อนเพิ่มพื้นที่ไปทั่วประเทศในอนาคต รวมถึงการเพิ่มบริการเรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วย


อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราค่าบริการที่เกิดขึ้นจะเป็นไปตามประกาศกระทรวงคมนาคมที่กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร และค่าบริการสำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564 เริ่มต้น 2 กิโลเมตรแรก 40-45 บาท ที่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเรียกรถผ่านแอปได้ในราคา 20 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น