1 ปีจีเอเบิลเข้าตลาดรายได้พุ่ง All Time High สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5,338 ล้านบาท การันตีปี 2567 โตต่อในยุค AI ท่ามกลางหลายดีลในไปป์ไลน์ หนึ่งในนั้นคือดีลยักษ์เขย่าตลาดซอฟต์แวร์บริหารคน (HCM) ที่พร้อมประกาศในไตรมาส 1 มั่นใจโอกาสงามดีมานด์สูงตามรอย ERP และ CRM ที่ยังมีแนวโน้มสดใสในไทยต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 5 ปี เตรียมเงินสำรอง 600-1,000 ล้านบาท พร้อมลงทุนทันใจ
ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2567 ว่ามุ่งหวังใน 3 กลยุทธ์ โดยส่วนแรกคือการเติบโตต่อที่ธุรกิจหลักซึ่งจะได้รับการกระตุ้นด้วยกระแสปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำให้บริษัทเห็นโอกาสมหาศาล และต้องการปั้นให้ทุกองค์กรพร้อมใช้ AI ยกระดับธุรกิจ
"สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับปี 2567 ของผมคือ AI การเข้าไปส่งเสริมให้ทุกคนใช้ AI ได้เป็นสิ่งที่อยากทำมากที่สุด แต่สำหรับจีเอเบิล การลงทุน M&A ในปีนี้น่าตื่นเต้นมาก เพราะจะทำให้เราเติบโตก้าวกระโดด เราต้องการเติมในสิ่งที่พอร์ตยังไม่มี คือ ERP และ CRM สิ่งที่เราจะโฟกัสคือการลงทุนเพื่อให้บริษัทลูกค้าโตเร็วขึ้น"
5 พอร์ตหลักที่เป็น Core Business ของจีเอเบิลในปัจจุบันนั้น ได้แก่ บริการและโซลูชันด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics) คลาวด์ (Cloud) ไซเบอร์ซิเคียวริตี (Cybersecurity) การพัฒนาแอปพลิเคชัน (Application Development) และบริการจัดการด้านไอที (Managed Tech Services) ซึ่งทั้งหมดเชื่อว่าจะสร้างการเติบโตให้จีเอเบิลมากขึ้นในวันที่เทรนด์ AI และ Cybersecurity มีความต้องการสูง
ขณะเดียวกัน ระบบบริหารทรัพยากร (ERP) และระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) จะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ที่ 2 ซึ่งจีเอเบิลมุ่งขยายโอกาสในตลาดแอปพลิเคชันสำหรับธุรกิจ หรือ Business Application โดยนอกจาก ERP และ CRM จีเอเบิลยังเล็งที่เซกเมนต์ HCM หรือ Human Capital Management Software ซึ่งมีการเติบโตเฉลี่ยของตลาดมากกว่า 18% ต่อเนื่องถึง 3 ปีข้างหน้า
ล่าสุด จีเอเบิลกำลังก้าวขึ้นเป็นพาร์ตเนอร์กับหนึ่งในบริษัทด้าน HCM ระดับโลกที่มีฐานผู้ใช้มากกว่า 65 ล้านคน ผลของดีลคือจีเอเบิลจะเป็นผู้ให้บริการรายเดียวในประเทศไทย คาดว่าจะมีการประกาศดีลในไตรมาส 1 ปีนี้
สำหรับ M&A หรือ Mergers and acquisitions ที่ชัยยุทธกล่าวถึงนั้นเป็นกลยุทธ์ที่ 3 นั่นคือการเน้นลงทุนในบริษัทที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจของจีเอเบิล จุดนี้ชัยยุทธย้ำว่าจีเอเบิลมีกระสุนเต็มแม็กซ์ ทำให้มั่นใจว่าแผนการเติบโตที่จีเอเบิลวางไว้จะสำเร็จได้ด้วย M&A
น ส.รวีรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทพร้อมนำเงินทุนจาก IPO ราว 600 ล้านบาท สู่การต่อยอดการเติบโตในอนาคต โดยคาดว่าปี 2567 จีเอเบิลจะมีการเติบโต 5-15% จากปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่แม้จะมีปัจจัยภายนอกเข้ามากระทบทั้งความผันผวนของปัจจัยระดับมหภาคและอุตสาหกรรมมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่จีเอเบิลยังคงเติบโตแบบสวนกระแส และสามารถเร่งการเติบโตของรายได้เป็น Double Digit ได้
"ด้วยการรักษาวินัยทางการเงิน ประกอบกับ ตอนนี้มีเงินทุนเหลือมากถึง 600 ล้านบาท จาก IPO ทำให้มีความพร้อมในปีนี้ที่จะต่อยอดการเติบโต ทั้ง Capacity และ Capability เพื่อตอบรับเทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2567"
ปัจจุบัน จีเอเบิลมองตัวเองเป็นบริษัทผู้นำด้านดิจิทัลเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีฐานความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี และเงินทุน รวมถึงมีเป้าหมายหลักในการใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลโซลูชันที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจองค์กรในอนาคต (Smart) สามารถปกป้องทุกข้อมูลสำคัญขององค์กรให้ปลอดภัย (Secure) เพื่อเพิ่มขีดสามารถในการทำกำไรและต่อยอดการเติบโตของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน (Sustain)
ที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำรายได้ All Time High สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่จีเอเบิลมองว่าตัวเองประสบความสำเร็จในการยกระดับเป็นบริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้จีเอเบิลมีฐานความพร้อมด้านเงินทุนที่สามารถต่อยอดการลงทุนในด้านต่างๆ เสริมแกร่งฐานะเจ้าของ Software Platform ที่มี 5 บริษัทในเครือเป็นพอร์ตหลักที่มั่นคงในการสร้างรายได้ และมีการใช้ Value-Added Distribution เป็นตัวต่อยอดการเติบโต ขณะที่ยังสามารถรักษาระดับรายได้จากรายได้ประจำ (Recurring income) ได้กว่าครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด และมียอด Backlog สูงที่สุดในประวัติการณ์มากกว่า 4,500 ล้านบาท
ในปี 2566 จีเอเบิลมีรายได้จากการดำเนินการ 5,338 ล้านบาท สูงกว่าปี 2565 ถึง 13% โดยหลังจากเข้าตลาด จีเอเบิลสามารถสร้างกำไรขั้นต้น จำนวน 1,099 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นที่ 21% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับปี 2567 จีเอเบิลในวัย 35 ปีกำลังมองโอกาสการเติบโตจากเทรนด์ AI ซึ่งกำลังมีบทบาทกับองค์กรธุรกิจมากขึ้น จีเอเบิลเชื่อว่าทุกธุรกิจองค์กรจะต้องพัฒนาระบบให้เป็น AI Ready Organization ทั้งระบบ ตั้งแต่การวางโครงสร้างพื้นฐานไอทีบนคลาวน์ การทำระบบ Data Analytics ผ่านซอฟต์แวร์ Big Data Platform รวมไปถึงการวางระบบ Cybersecurity ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกระบบในองค์กรทั้ง Front Office และ Back Office มีความพร้อมในการทำงานร่วมกับ AI ในอนาคต
จากกำไรสุทธิปี 2566 ที่จีเอเบิลทำได้ 253 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จีเอเบิลจะรักษาระดับ Gross Profit Margin ไว้ได้ที่ 20-22% เบื้องต้น จีเอเบิลมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระดับ 4,544 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาส 3 ปี 2566 รองรับการรับรู้รายได้ในอนาคต และมี Backlog ที่พร้อมรองรับรายได้ในปี 2567 แล้วกว่า 2,753 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งของเป้าหมายรายได้ในปี 2567