Finschia Foundation ในเครือ LINE Blockchain ประกาศการควบรวมเครือข่ายกับ Klaytn Foundation พร้อมร่วมกันเปิดตัวเมนเน็ตแบบบูรณาการ เพื่อสร้างการกำกับดูแล Web3 ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
ย็องซู โค ประธานสภาองค์กร Finschia กล่าวว่า ยังไม่มีเครือข่ายบล็อกเชนใดที่เป็นตัวแทนของตลาดเอเชียและชุมชนยังเข้ามามีส่วนร่วมไม่เพียงพอ เราวางแผนที่จะสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
แซม ซอ ตัวแทนกรรมการ Klaytn Foundation กล่าวว่า ในกระบวนการปรับข้อเสนอการควบรวม ที่มุ่งหวังจะสร้างระบบนิเวศบล็อกเชนที่ดีที่สุดที่จะสร้างมูลค่าที่ยิ่งใหญ่ในอนาคตร่วมกัน
สำหรับข้อเสนอในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำของเอเชียโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน บริการ และความรู้ทางธุรกิจที่เหนือกว่า ข้อเสนอการควบรวมเครือข่ายได้รับการลงคะแนนโดยสมาชิกที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลของแต่ละองค์กร มีสมาชิกจาก Finschia 95% ตอบตกลง และสมาขิกจาก Klaytn 90% ตอบตกลง
การควบรวมเครือข่ายในครั้งนี้จะทำให้ Finschia และ Klaytn มีแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์กลาง (Decentralized apps: dApps) ประมาณ 420 แอปพลิเคชัน และมีพันธมิตรสมาชิกด้านการกำกับดูแลมากกว่า 45 ราย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ Web3 เป็นที่นิยมในฐานะระบบนิเวศบล็อกเชนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ทั้ง 2 องค์กรจะจัดตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อบูรณาการเครือข่ายและวางรากฐานในอาบูดาบีภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยทีมปฏิบัติการเดิมจะย้ายไปปฏิบัติงานที่องค์กรใหม่ ซึ่งจะนำโดยคณะกรรมการบริหารที่มีจำนวนกรรมการเท่ากันจากแต่ละองค์กร
สำหรับบล็อกเชนใหม่ที่เกิดขึ้นจะเป็นการผสานเทคโนโลยีของทั้ง Finschia และ Klaytn เข้าด้วยกัน และจะสามารถใช้งานร่วมกันกับทั้ง EVM และ CosmWasm ซึ่งเป็นการยกระดับการทำงานระหว่างกันของระบบนิเวศ Ethereum และ Cosmos ทีกว้างขึ้น KLAY และ FNSA ซึ่งเป็นเหรียญดิจิทัลประจำแพลตฟอร์มของทั้ง 2 แพลตฟอร์มเดิมจะถูกแทนที่ด้วยเหรียญดิจิทัลสกุลใหม่ ในขณะที่เหรียญดิจิทัลเดิมที่ไม่มีการเคลื่อนไหวจะถูกทำลาย
ส่วนในอนาคต ยังวางแผนที่จะริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสำหรับนักลงทุนสถาบัน การร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย และเปิดตัวเหรียญประจำแพลตฟอร์มที่มีความเสถียร เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมของอุตสาหกรรมบล็อกเชนในเอเชีย